วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ขนมครก

ควรซื้อขนมครกเป็นของขวัญวันแห่งความรัก (อ่าน แล้ว จะ ชอบ ขนมครกมากกว่า ขนม เค้ก)

 
ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ 
ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่ 
อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง 
ขยันขันแข็งเอางานเอาการ 
เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย 
ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ 
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง 
เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย 
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน
 
แม่แป้ง 
ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน 
นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง 
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ 
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด 
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป 
แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้ 
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง 
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย 
พร้อมอาวุธครบมือ ไอ้ทิไม่ว่ากระไร 
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอม 
กลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน 
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่ 
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน 
 
ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน 
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก 
ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี 
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้ 
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้ 
แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย 
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล 
เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์ 
ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า 
 
.... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม 
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ 
ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา 
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
 
ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง 
ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที 
อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ
อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 
นายของผู้ใหญ่ปลั่งรีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ 
เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น
 
.... รุ่งเช้า
 
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล 
ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน 
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข 
เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา 
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้ 
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า 
อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย 
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
 
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี 
 
ทุกแรมหกค่ำเดือนหก 
ชาวบ้านที่ศัรทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด 
เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน 
ปรุงจากแป้งและกะทิ 
บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน 
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอ ดไป 
 
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก 

(ขนมของ "คนรักกัน" )
 
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."
 

ขำขันยามเย็น

ผู้ใหญ่หาผัวใหม่....ให้สะใภ้ได้ใช้งาน
ผัวเก่าเราหัวล้าน....เขกกบาลแล้วเจ็บมือ
บ้าใบลงเรือใบ....ดูน้ำใสและสะดือ
สิ่งใดอยู่บนขื่อ....ก็กระสือเรืองแสงเอย

อันรักแท้ มิใช่ แค่ได้รัก
ยังมีพราก มีร้างลา น้ำตาไหล
แต่รักหนื่ง แน่นอน ไม่คลอนคลาย
คือ...รักแร้ ของหนูไง ให้กลิ่น...เดียว

ม.เมียนั้นหายาก
ต้องลำบากไปจีบมา
ฝ่าตะพดของพ่อตา
อีกคำด่าของแม่ยาย
สินสอดและทองหมั้น
เงินทั้งนั้นที่เสียไป
ห้าทุ่มรีบดับไฟ
คืนกำไรให้ตัวเอง

เกรด A นั้นหายาก
ต้องลำบากจดโพยไป
นั่งลอกบานตะไท
ใช้ทั้งหมึกเปลืองปากกา
ต้องเก็บวางให้ไว
ซ่อนเอาไว้ที่ลับตา
เก็บไม่มิด F ลอยมา
โอ้เธอจ๋าจำจงดี

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดหายไปสักสลึง
มีน้อยไปเป็นกรรมควรคำนึง
สามสลึงต้องอยู่ที่ศรีธัญญา

เมื่อคืนฝันสยองตีสองกว่า
ฝันไปว่านอนซบกับศพผี
นอนขึ้นอืดค้างตายมาหลายปี
เหมือนปิศาจอเวจีที่น่ากลัว
เหม็นซากศพ อบอวลไปทั่วห้อง
ไม่กล้ามองต้องคู้คด นอนหดหัว
ตกใจตื่นขนลุกซู่ ดูรอบตัว
เห็นชัวร์ ๆ เมียนอนตด สลดใจ

พอหน้าท้อง ของแม่ เริ่มป่องออก
พ่อก็บอก อยากให้ลูก เป็นดอกเตอร์
ย่าก็อยาก ให้หลานเป็น นายอำเภอ
แต่ต้องเก้อ หมอบอกแม่ แค่ลงพุง

คนอะไรไม่รู้ดูสวยเริ่ด
เทพธิดามาเกิดเชียวหรือนี่
อกเอวองค์สามส่วนล้วนเข้าที
งามอย่างนี้ใครได้เห็นเป็นต้องตา
ดวงเนตรคมผมสลวยรวยรอยยิ้ม
ปากเอิบอิ่มรูปกระจับรับใบหน้า
อยากจีบเธอเป็นคู่ชมสมอุรา
พอรู้ว่าเธอเป็นตุ๊ดสุดเศร้าใจ

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2550

มุมมอง

วันนี้อ่านหนังสือเล่มนึง อ่านแร้ว...สบายใจจัง
เอาเรื่องนึงมาให้อ่านเล่นๆๆนะ ว่าแต่..ทนอ่านหน่อยนะ
มันยาวหน่อย แต่เราอ่านแล้วยิ้มเลย

มีพระอยู่องค์หนึ่งท่านอยู่ที่วัดแร้นแค้นมากๆๆ
ท่านต้องสร้างวัดเอง จึงเริ่มก่อกำแพง
ทั้งๆๆที่ท่านมะเคยทำเลยในชีวิต
การก่อกำแพงที่คุณมองว่า แค่เอาอิฐวางเอาปูนใส่นั้น
แท้จริงแล้ว มันยากนะ เพราะว่าจะทำยังไงให้มันตรง
เท่ากันหมด พอพระท่านก่อกำแพงเสด ท่านเห๊นว่า
ตรงกลางของกำแพง มีอิฐอยู่ 2 ก้อนที่มันมะตรง
มันนูนออกมาจากอิฐก้อนอื่น ครั้นจะรื้อก้อมะได้
เพราะค่าใช้จ่ายมันแพง ทุกครั้งที่ญาติโยมมาที่วัด
อาตมาจะรู้สึกอับอาย มากเวลามีคนจ้องไปที่อิฐสองก้อนนั้น
จนกระทั่งวันนึง มีผู้ชายแก่คนนึงมาที่วัด แล้วมองไป
ที่กำแพงอันนี้ ชายแก่พูดว่า..กำแพงนี้สวยดี
อาตมาถามเค้าด้วยความตกใจว่า ลืมใส่แว่นมาเปล่า
คุณไม่เห๊นหรอว่ามันมีอิฐสองก้อนที่วางไม่ดีจนกำแพงนี้
ดูไม่ดี คำพูดที่ชายแก่ตอบอาตมามานั้น ได้เปลี่ยนแปลง
ทัศนคติทั้งหมดของอาตมาชายแก่บอกว่า...ใช่
ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก้อเห๊นด้วย
ว่ามีอิฐอีก 998 ก้อนก่อไว้ได้อย่างสวยงาม เปนระเบียบ
อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเปนครั้งแรกในรอบหลายๆๆปี
ที่อาตมามองเห๊นอิฐก้อนอ ื่นๆบนกำแพงนอกเหนือจาก
สองก้อนที่เปนปัญหา ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด
เดวนี้เมื่ออาตมามองเห็นอิฐดีๆๆแล้ว
กำแพงนี้สำหรับอาตมาก้อไม่น่าเกลียดอีกต่อไป
คนเราซักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์กะเพื่อน พี่ น้อง
เพียงเพราะเขาเพ่งมองแต่..อิฐที่ไม่ดีสองก้อนนั้น
ที่อยู่ในตัวคนอื่น ทั้งๆๆที่ในความเปนจริง มีทั้งอิฐที่ดี
และอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ เพียงแต่เรามองไม่เห๊นมันเท่านั้น
แทนที่จะเหนสิ่งดีๆๆที่มีอยู่ สายตาของเรากลับเพ่งมอง
จดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้ง
หลายหนเราได้ลงมือทำลาย กำแพงที่ดีลงไปจริงๆๆ

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สุรา

สุรา รสชาติคล้ายกันทั้งโลก
คุณสมบัติก็ เหมือนกัน คือ กินแล้วเมาเหมือนกันหมด
คนที่ดื่มสุรามากๆ มักจะมีคอแข็ง แกร่งประดุจเหล็กไหล
เวลาตายไปตกนรก โดนยมบาลเอาน้ำร้อนกรอกปากก็ไม่สะทก สะท้าน
เนื่องจากตอนเป็นคนเตรียมการมาดี ผมขอเสนอว่า
นรกขุมนี้ควร
เปลี่ยนวิธีการลงโทษ เป็นแบบใหม่
การสังสรรค์ในหมู่ชายฉกรรจ์ ถ้าขาด สุราไป
ก็คล้ายกับการสั่งเกาเหลาไม่เอาน้ำ การสนทนาในวงเหล้า
จะทวีความ มันส์ เมื่อสุราเริ่มทยอยเข้าปากไป
ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็จะสนิทดั่ง ญาติมิตรชนิดตายแทนกันได้
การพูดจาก็จะดังระงมคล้ายมีไมค์มาจ่อปาก
และ อาการทั้งหมดจะสงบลง เมื่อบิลเก็บตังค์มา
การดื่มสุราเอาสนุก บางทีก็ไม่จำ เป็นต้องเมา
โดยเฉพาะผู้ชาย ยามเมาแล้วไม่ค่อยน่าคบ
เพราะมักมีวิญญาณ โผน กิ่งเพชร เข้าสิง
อยากบู๊ท่าเดียว พวกนี้อันตราย
ส่วนรายไหนเมาแล้ว ใจป้ำ ควักตังค์จ่ายเป็นระวิง อันนี้ท่านว่า น่าคบ
ผู้หญิงก็คน ใช่ว่าจะเมา ไม่เป็น พอเมาถึงจุด
จะมีคำพูดประจำว่า "ชั้นไม่มาว แต่ไม่เหมือนเดิม
" ส่วนคำพูดแรกหลังจากถูกจีบ คือ "นายมารถอะไร"
การดื่มสุราในงานวันเกิด เจ้า ภาพจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ
จะตดจะเรอก็ไม่มีใครว่า พูดจาอะไรก็ถูกก็ดีไป หมด
แต่คนเป็นเจ้าภาพมักไม่ค่อยสนุก เพราะต่างรู้ชะตากรรมว่า
มื้อนี้กู แน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดื่มสุรา ก็คือการชนแก้ว
อันนี้ไม่เหมาะกับ พวกมือตีนหนัก แก้วอาจร้าวบาดปากได้
การชนแก้วอย่างถูกวิธี อาจทำให้คุณได้ เบอร์สาวโต๊ะข้างๆ
สูตรต่างๆ ในการมิกซ์สุรา
4-4-2 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเฉพาะของเฟอร์กี้ หลังปึ้ก
กลางเปรี๊ยะ หน้าหวดเพี้ย เหมาะ สำหรับท่านที่ดื่มเรื่อยๆ
หวังเก็บแต้มเสมอนอกบ้าน
4-3-3 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเด็ดของแวนเกอร์ หลังขาด กลางขึง
หน้าตะบึง เหมาะสำหรับท่านที่ ดื่มเอามันส์ หวังเก็บสามแต้มเต็ม
3-5-2 ( โซดา-โค้ก-สุรา ) เป็นสูตรลับของ ราฟาเอล หลังเสียบ กลางซ่า
หน้าซิ่ง เหมาะสำหรับสตรีและกระเทย
4-4-2 defense ( น้ำแดง-เหล้าขาว-ลิโพ ) อันนี้โค้ชหรั่ง ช้อบชอบ
ทานง่าย ประหยัดงบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยๆ
สุรา มีชื่อสามัญว่า เหล้า คำว่า สุรา อาจจะมา จาก สุระ ที่แปลว่า
ยิ่งใหญ่
เพราะเห็นใครๆสุราเข้าปากไป มักจะยิ่งใหญ่คับ โต๊ะเกินกว่าบุคคลธรรมดา
ร่างกายของคนเรา ทางพระเรียกว่า
อินทรีย์ธาตุ
รับความรู้สึกผ่านทางทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
โดยมีประสาท เป็นผู้สั่งการ สิ่งที่เรารับเข้าทางทวารทั้งห้า
ทางพระเรียกว่า ทุกขัง คือ สภาพจริงที่ทนได้ยาก
การดื่มสุราเข้าไปมากๆ จะทำให้ประสาทสั่งการได้ช้า ลง
เพราะสุรามีฤทธิ์กดประสาท ส่งผลให้ทวารทั้งห้าทำงานได้ช้าลงไปด้วย
คนเราก็รับทุกขังได้น้อยลง เมื่อคนเราขาดทุกขัง
ก็เหมือนขาดสภาพจริงที่ทนได้ ยาก
เหลือแต่จิตเปล่าๆ เวลาสนุกก็สนุกสุดๆ ทุกข์ก็ทุกข์สุดๆ
รวมทั้ง โมโห โกรธ กล้า ก็จะมากกว่าคนในภาวะปกติ
โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการ สุรา ยังกล่าวไว้ว่า "ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา
แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำ สุรา"
เฮียฮ้อ อาร์เอส ก็ออกมาย้ำว่า "อย่าอุดหนุน สุราผี โซดาเถื่อน"
น้าหมัก ก็สนับสนุนว่า
"การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการจีบหญิงเพิ่มขึ้น"
ส่วนไอ้กระผม ก็ตั้งมั่นอยู่ในหลัก "เมาจัง ตังค์อยู่ครบ"
อันนี้ไม่ค่อยดีครับ ไม่ขอแนะนำ
เพราะท่านอาจถูกบอยคอตจาก องค์การสหสุราชาติได้
หลายคนถก เถียงกันว่า สุราอะไรอร่อยที่สุด ชีวาส แบล็กเลเบิล หรือว่า
สวิง
ผมขอตอบ ให้เลยครับว่า เหล้าฟรีอร่อยที่สุด
ท่านทั้งหลายต่างก็รู้กันอยู่ว่า หลัง ดื่มจะต้องเมา
ก็ขอให้เตือนใจไว้เสมอว่า เมาไม่ขับ กับ ต้องใส่ถุง แล้วท่าน
จะไม่ตายเพราะการดื่ม
อันความคิดก๊อกก๊อกของผมคิดว่า ทำปัจจุบันขณะเมาให้ดี ที่สุด
ก็พอแล้ว เพราะการดื่มสุรา ก็แค่การยกน้ำขมๆผสมโซดาเข้าปากไป
แล้วคุณจะหวังอะไรให้มากกว่านั้น

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ใครว่าต้วมเตี้ยมเป็นหมาขี้เรื้อน

งานเจดีย์

เลี้ยงส่งเบิ้ม

XXX

น้องจอยเป็นเด็กเรียบร้อยจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กับน้าชายเพื่อมาเรียนหนังสือทุกคนคิดว่าทั้งคู่เป็น

น้าหลานกันธรรมดาจนกระทั่งวันหนึ่ง
น้องจอยพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
"น้าถอดเสื้อของจอยได้ไหม"
น้าชายก็ถอดเสื้อของน้องจอยออกอย่างว่าง่าย
"น้าถอดกางเกงจอยด้วย"
น้าชายรีบถอดกางเกงหลานสาวโดยทันที
น้องจอยพูดด้วยอาการอายต่อไปว่า
"ยกทรงหนูด้วย"
น้าชายปลดตะขอยกทรงน้องจอยออก

จากนั้นน้องจอยก็พูดด้วยอาการหน้าแดงว่า
"กางเกงในหนูก็ถอดด้วยสิ"

น้าชายถอดเสื้อผ้าของน้องจอยออกหมดจากนั้นน้องจอยก็กล่าวว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.


"คราวหน้าน้าอย่ามาเอาเสื้อผ้าของจอยไปใส่อีกนะ"
.
.
.
ใครคิดลามกเขกหัว 1 ที 5 5 5

พ-อ-อ่-า-น-เ-รื่-อ-ง-นี้-จ-บ- นํ้า-ต-า-ผ-ม-ก็-ไ-ห-ล

น้องนกเป็นเด็กน่ารัก มีอยู่วันนึงขณะที่นั่งทำการบ้าน
ก็มีเสียงกริ่งดัง ขึ้น
น้องนกก็รีบไปเปิดประตู
เห็นผู้ชายหน้าตา ดีคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู
ขณะที่ยืนสงสัยอยู่นั้น แม่ก็เดิน ออกมาจากครัว
ยิ้มให้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "มา แล้วเหรอ"
จากนั้นหันมาพูดกับน้องนกว่า "เรียก พ่อสิ"
น้องนกยืนอึ้ง และถามตัวเองว่า ชายคนนี้เป็นใคร?
ทำไมแม่บอกให้เรียกพ่อ? หรือว่า
แม่เห็นน้องนกยืนนิ่ง ก็บอกซํ้าว่า "เรียกพ่อสิ"
น้องนกก็ ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม จนแม่ต้องเอ็ดซํ้า "เรียกพ่อเร็ว สิ"
เมื่อเห็นน้องนกยังนิ่งเฉย
คราวนี้ จึงโดนแม่ฟาดด้วยฝ่ามือพร้อมกับเอ็ดว่า
"ใบ้กินรึไง? เรียกพ่อ สิ"
น้องนกยืนนํ้าตาไหล
นึกไม่ถึงว่าจะถูกแม่ ตีเพราะคนแปลกหน้า
พร้อมกับพูดอย่างไม่เต็มเสียงว่า " พะ พะ พ่อ"
จากนั้น แม่ก็ส่ายหัวพร้อมกับเอ็ดน้องนกด้วยความโมโหว่า
"พ่อแกอยู่ในห้อง เรียกยังงี้จะได้ยินได้ไง รีบไปเรียกเร็ว ช่างเค้าจะไปซ่อมแอร์ที่อื่นอีก"

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2550

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ความสุขใกล้ตัว

ความสุขใกล้ตัว อ่านสั้นนิดเดียวแต่ได้ใจความดีมากๆ
ความสุข สิ่งที่ใคร ๆ ต่างไขว่ขว้า

คุณอยากได้กล้องถ่ายรูปแบบดิจิตัลสักตัวหนึ่ง
หลังจากหาข้อมูลมาหลายวันทั้งจากหนังสือพิมพ์และคนรู้จัก
ก็ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อยี่ห้อและรุ่นอะไร
คุณใช้เวลา ๒-๓ วันในการหาร้านที่ขายถูกที่สุด
แล้วคุณก็พบร้านหนึ่งซึ่งขายต่ำกว่าราคาทั่วไปถึง ๒๕ %
คุณตัดสินใจควักเงิน ๗,๕๐๐ บาท แล้วพากล้องใหม่กลับบ้าน
ด้วยความปลื้มใจที่ได้ทั้งของดีและราคาถูก
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ตั้งใจว่าจะไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง
แต่กลับพบว่าเขาเพิ่งซื้อกล้องยี่ห้อและรุ่นเดียวกับคุณ
แต่ซื้อได้ถูกกว่านั้น คือจ่ายไปเพียง ๕,๐๐๐ บาทเท่านั้น

คุณจะรู้สึกอย่างไร ? ยังจะยิ้มได้อีกหรือไม่ ?

ถ้าคุณยิ้มไม่ออก ก็น่าถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
ก็คุณเพิ่งได้ของใหม่มา แถมจ่ายน้อยกว่าคนทั่วไป
อีกทั้งสินค้าก็มีคุณภาพและถูกใจคุณเสียด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่คุณน่าจะดีใจมิใช่หรือ  ?
แต่ทำไมคุณถึงเสียใจหรือถึงกับโมโหตัวเอง
เป็นเพราะคุณไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านใช่หรือไม่ ?
คุณมีกล้องดีที่น่าพอใจ แต่ทันทีที่คุณไปเปรียบเทียบกับกล้องของคนอื่น
ความรู้สึกไม่พอใจก็เข้ามาแทนที่
คนเราไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีก็เพราะเหตุนี้
จึงมีผู้กล่าวว่าการเปรียบเทียบเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์

เคยสังเกตหรือไม่ว่า
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักคิดว่ารถของคนอื่นดีกว่ารถของตัว
แฟนของคนอื่นสวย(หรือหล่อ)กว่าแฟนของตัว ลูกของคนอื่นเก่งกว่าลูกของตัว
และอาหารที่คนอื่นสั่งมักน่ากินกว่าจานของตัว
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ชีวิตจะหาความสุขได้ยาก
แม้จะได้มามากเท่าไร ก็ไม่พอใจเสียที

อย่าว่าแต่ของที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเลย แม้ของที่เราได้มาฟรี ๆ
เช่น ได้โทรศัพท์มือ ถือมาฟรี ๆ ๑ เครื่อง
ที่จริงน่าจะดีใจ แต่เมื่อรู้ว่าคนอื่นได้รับแจกรุ่นที่ดีกว่าและแพงกว่า
จากเดิมที่เคยยิ้มจะหุบทันที
แถมยังจะทุกข์ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้รับแจกด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นใช่ไหม ?
ทั้งๆ ที่ตนมีโชคแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนโชคไม่ดีเหมือนคนอื่น
ความทุกข์ของผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไปมองคนอื่นมากเกินไป
เราจึงไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีหรือเป็นเสียที
แม้ว่าจะสวยหรือหุ่นดีเพียงใด
ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ ผมไม่สลวย ผิวคล้ำไป
แถมวงแขนก็ไม่ขาวนวลเหมือนดารา
แต่เมื่อใดที่เราหันมาพอใจกับสิ่งที่ตนมี
มองเห็นแง่ดีของสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่
ความสุขจะเพิ่มพูนขึ้นมามากมายทันที
จิตใจจะเบาขึ้น และชีวิตจะหายเหนื่อย
เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องวิ่งไล่ล่าหาซื้อสิ่งของต่าง ๆ มากมาย
เพียงเพื่อจะได้มีเหมือนคนอื่นเขา

พอใจในสิ่งที่เรามี
ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น
เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่กับตัว
นี่คือเคล็ดลับสู่ชีวิตที่เบาสบายและสงบเย็น

โดย พระไพศาล วิสาโล

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

คนตัดไม้กับเทวดา (ภาคใหม่)

บ่ายวันหนึ่งระหว่างคนตัดไม้กำลังตัดไม้อยู่ริมน้ำนั้นขวานคู่มือก็หลุดมือจม
 ลงน้ำไป  คนตัดไม้ก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำ
 ทันใดนั้นเองเทวดาก็ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วถามว่า  "มีปัญหาอะไรรึ"
 
"ขวานของผมตกลงไปในน้ำ  และตรงนี้น้ำลึกมาก
 ต่อไปผมจะเอาอะไรไปตัดไม้หาเลี้ยงลูกเมียได้ล่ะท่าน"
 เทวดาได้ยินดังนั้นก็ดำน้ำลงไปสักพักแล้วขึ้นมาพร้อมกับขวานทองคำ
 "เอ้า! ขวานนี้เป็นขวานของเจ้าใช่รึไม่?"  เทวดาถามคนตัดไม้
 "ไม่ใช่ครับ"
 เทวดาก็ดำน้ำลงไปอีกครั้งกลับขึ้นมาพร้อมกับขวานเงิน
 "เอ้า! แล้วขวานนี้หละใช่ของเจ้ารึไม่?"
 "ไม่ใช่ครับขวานของผมทำจากเหล็ก มีด้ามไม้เก่าๆ  ไม่ใช่ขวานเงิน ขวานทอง"
 เทวดาจึงดำลงน้ำไปอีกครั้งแล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับขวานเหล็กคู่มือของคนตัดไม้
 "เอ้า!...ขวานของเจ้า แต่เราเห็นเจ้าเป็นคนดีซื่อสัตย์ไม่โกหก
 เราจะให้ขวานเงิน กับขวานทองคำแก่เจ้าไปด้วย
 เพื่อตอบแทนในการที่เจ้าเป็นคนดี"
คนตัดไม้จึงรับขวานไว้แล้วกลับบ้านด้วยความสุข

หนึ่งเดือนต่อมา............
ระหว่างที่คนตัดไม้กำลังเดินเล่นอยู่ริมน้ำพร้อมกับภรรยาของเขาอยู่นั้น
 ภรรยาก็ลื่นตกน้ำไป  คนตัดไม้ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำ
 ทันใดนั้นเทวดาองค์เดิมก็ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
 "เอ้า...คราวนี้เจ้ามีปัญหาอะไรรึ"
 "ภรรยาผมลื่นตกน้ำไปเมื่อกี้นี้้ครับ"
ได้ยินดังนั้นเทวดาจึงดำน้ำลงไป
 และขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกันกับเจนนิเฟอร์ โลเปซ
 ตั้งแต่หัวจรดเท้า  "ผู้หญิงคนนี้ใช่ภรรยาเจ้ารึไม่?"
 "ใช่แล้วครับ" คนตัดไม้ตอบทันที
 เทวดาจึงโกรธมาก เพราะเห็นว่าคนตัดไม้โกหก และไม่ซื่อสัตย์เหมือนก่อน
 "ขออภัยด้วยครับท่านเทวดา มันเป็นการเข้าใจผิดครับ"
 คนตัดไม้รีบชี้แจงทันใด
"ถ้าเกิดผมตอบว่าไม่ใช่ ผมเดาว่าท่านก็คงจะลงไปในน้ำอีกครั้ง
 แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงที่เหมือนกับ แคทธลีน ซีต้าโจนส์
 และเมื่อผมปฏิเสธอีก ท่านก็คงจะดำลงไปอีกครั้งแล้วนำภรรยาของผมตัวจริงขึ้นมา
 สุดท้ายท่านก็คงจะให้ผู้หญิงอีก 2คนแก่ผมด้วย
เพื่อตอบแทนที่ผมไม่โกหก
แต่ว่า....ผมเป็นแค่คนตัดไม้จะมีปัญญาอะไรไปหาเงินเลี้ยงเมียพร้อมกัน
 3 คนได้ล่ะครับ ผมจึงจำเป็นต้องตอบว่าใช่ตั้งแต่แรก"

 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
เมื่อใดที่ผู้ชายโกหก แสดงว่าชายผู้นั้นจะต้องมีเหตุผลจำเป็นในการโกหก
และมีเจตนาดีอย่างแน่นอน



Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

สุดยอด


ชายชาวอินเดียคนหนึ่ง เดินเข้าไปในธนาคารกลางเมืองนิวยอร์ค ถามหาเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ชายคนนี้บอกกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อว่า เขาจะต้องไปทำธุระที่ประเทศอินเดีย ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เลยจะขอกู้เงินสัก 170,000 บาท

เจ้าหน้าที่สินเชื่อบอกกับเขาว่า การกู้ยืมเงินจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดังนั้นชายชาวอินเดียยื่นกุญแจรถเฟอร์รารี่รุ่นใหม่ล่าสุดที่จอดอยู่หน้าธนาคาร พร้อมกับเสนอให้ใช้รถคันนี้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เจ้า หน้าที่สินเชื่อจึงตกลงให้กู้เงินโดยใช้รถค้ำประกัน

ผู้จัดการธนาคาร กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ต่างก็ขบขันชายชาวอินเดียที่เอารถเฟอร์รารี่ราคา 8,500,000 บาท มาค้ำประกันเงินกู้ เพียงแค่ 170,000 บาท

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารก็นำรถเฟอร์รารี่ขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของธนาคาร

สองสัปดาห์ผ่านไป ชายชาวอินเดียก็กลับมาที่ธนาคารพร้อมด้วยเงิน 170,000 บาท และดอกเบี้ยอีก 500 บาท นำมาชำระคืนให้กับธนาคาร

เจ้าหน้าที่สินเชื่อพูดว่า "ท่านครับ เรารู้สึกดีใจมากที่่คุณจัดการธุระของคุณได้เสร็จเรียบร้อย และการกู้เงินในครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี แต่ผมสงสัยอะไรนิดหน่อย ตอนที่คุณไปแล้ว เราได้เช็คประวัติของคุณดู ก็พบว่าคุณร่ำรวยเป็นอภิมหาเศรษฐีคนนึงเลย แต่ทำไมคุณถึงต้องมากู้เงินกับเราแค่ 170,000 บาทด้วย ล่ะครับ"

ชาวชาวอินเดียตอบกลับไปว่า "ไม่มีที่ไหนในนิวยอร์คอีกแล้ว ที่ผมจะสามารถจอดรถทิ้งไว้ได้ถึง 2 สัปดาห์ ด้วยเงินเพียง 500 บาท พร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อยว่ารถผมจะไม่หาย"

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ส่วนผสมของเหล้า

วันหนึ่งไอ้ขี้เมามันเดินเข้ามาหาพระในวัด... มันบอกว่าหลวงพี่ชอบด่าคนกินเหล้า... ว่าโง่ยิ่งกว่าหมา... อยากจะทดสอบหลวงพี่หน่อย... ที่หลวงพี่บอกว่าเหล้าไม่ดีนะ... หลวงพี่รู้หรือเปล่าว่า... เหล้านะมีส่วนผสมอะไรบ้าง... ?
หลวงพ่อก็ตอบไปว่า..เรื่องง่ายๆ... ทำไมพระจะไม่รู้ คนโบราณเขาเล่าว่า... เหล้ามันผสมด้วยเลือดสัตว์ 5 ชนิด... คือ...

1. เลือดเสือ... กินเข้าไปแล้วดุมาก...มึงช่วยหามกูไปตีกับมันหน่อย...
2. เลือดงู... ....กินแล้วเดินไม่ตรงทาง...คดไปคดมา...
3. เลือดนก......กินแล้วคุยทั้งวันทั้งคืน...ไม่รู้เอาเรื่องอะไรมาพูด...
4. เลือดหมู..... กินแล้วนอนตรงไหนก็นอนได้...หมาเลียปากก็ไม่รู้สึก...
5. เลือดหมา....กินแล้วเห่าตะพึด...กระทั้งลูกเมียตัวเองมันก็จะกัด...


พูดเสร็จอาตมาก็รีบเดินเข้ากุฏิ...เพราะพระไม่มีประกันชีวิต..

(จากคำเทศนาของพระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ)

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550

อคติ

อคติทำให้เกิดทัศนะคติและมุมมองที่มักหาเหตุผลและความชอบธรรมในสิ่งที่ ตัวเองได้เลือกและกระทำ ผู้ที่ทำไม่ได้ดีเยี่ยงผู้อื่นมักหาเหตุมาอ้าง บางสิ่งมีอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมีเพียงเพื่อจุดประสงค์นั้นๆเพียงอย่างเดียว เหมือนมีด มีคุณมีโทษนานับประการ ใช้ทำไรได้ตั้งหลายอย่าง ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้ตัดไม้ผ่าฟืน จะใช้หั่นผักหั่นปลาเป็นอาวุธไว้ฆ่าคนฆ่าสัตว์หรือป้องกันตัว ฯลฯ จะมาบอกว่า มีด มีไว้เพียงเพื่อตัดไม้ผ่าฟืนมันก็ไม่ได้ ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ต้องกลับมาพิจารณาดูมีดของเราแล้วล่ะ ว่ามันทำอะไรได้บ้าง มันทำได้อย่างมีดเล่มอื่นหรือเปล่า หรือมีดเราแค่ซอยผักซอยหอมได้แค่นั้น ถ้าอย่างนั้นจะไปโทษมีดเล่มอื่นที่ทำได้หลายอย่างกว่ามันก็ไม่ถูกนัก นั่นเพราะว่ามีดบางเล่มก็สารพัดประโยชน์จริงๆ

ของบางอย่างทำมาเพื่อบางอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่าเอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ของบางอย่างมีไว้สำหรับทำหลายๆอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่า มันทำได้ดีทุกอย่าง การที่จะเลือกสิ่งใดเพื่อทำอะไรสักอย่าง ก็ควรเลือกให้มันเหมาะสมและให้ผลดีที่สุดกับงานนั้นๆที่เราจะทำ แต่ถ้าสิ่งที่เรามีกับสิ่งที่เราจะทำ มันให้ผลที่ไม่น่าพอใจหรือไม่ดีเยี่ยงคนอื่นหรือสิ่งอื่นทำ ก็ให้ยอมรับและพัฒนาสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ให้ดีเทียบเท่าหรือดีกว่าสิ่งที่คน อื่นมีอยู่แล้วทำได้ดีกว่าเรา มีดเราอาจจะทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเหมือนมีดเล่มอื่นเขา แต่มันอาจจะใช้แกะสลักได้ไม่ดีเท่ามีดเล่มอื่น เพราะปลายอาจจะไม่แลมเรียว เมื่อเห็นจุดบกพร่อง ก็ตีมีดเราใหม่เพื่อให้มันดีเท่ามีดคนอื่น ไม่ใช่โยนมีดที่ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างแต่แกะสลักได้ไม่ดีทิ้งไป แล้วใช้เคียวเกี่ยวข้าวที่มีปลายแหลมมาแกะสลักและใช้ทำอย่างอื่นแทนมีด อย่ามัวแต่ไปโทษผู้อื่น ให้ดูตัวเองก่อน

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2550

วันนี้ คุณยิ้ม แล้ว รึยัง :: ยิ้มหมายเลข 1 ::

"เมียอั๊วนอกใจว่ะ" ไอ้หนุ่มปรับทุกข์กับเพื่อน
"เรื่องเป็นไงมาไงวะ" เพื่อนยินดีรับฟัง
"เมื่อคืนอีไม่ยอมกลับบ้านน่ะสิ พออั๊วถาม อีบอกว่าไปค้างกับพี่สาว..."ไอ้หนุ่มเล่า
"ก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่หว่าแค่นี้จะว่าเค้านอกใจได้ไง" เพื่อนชี้ทางสว่าง
"โกหกเห็นๆว่ะ อั๊วนอนอยู่กับพี่สาวอีทั้งคืนแท้ๆนี่หว่า..."

วันนี้ คุณยิ้ม แล้ว รึยัง :: ยิ้มหมายเลข 2 ::

หนุ่มใหญ่นั่งครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานจนภรรเมียสงสัย
"คิดอะไรอยู่หรือพี่" เธอถาม
"จำได้มั้ย วันนี้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วพ่อเอ็งจับได้ว่าข้าเข้าหาเอ็ง "
"จำได้สิพี่" เมียพยักหน้าหงึกๆ
"แล้วพ่อเอ็งก็ให้ข้าเลือกว่าจะมาสู่ขอเอ็งหรือว่าจะยอมติดคุกซัก 20 ปี"
"แล้วพี่ก็เลือกแต่งกับชั้น" เมียพยักหน้าอาการรับรู้
"แล้วพี่นั่งคิดอะไรอยู่ล่ะ"
"ข้าคิดอยู่ว่า ถ้าข้ายอมติดคุก วันนี้ข้าก็พ้นโทษแล้วว่ะ!!!"

วันนี้ คุณยิ้ม แล้ว รึยัง :: ยิ้มหมายเลข 3 ::

จิตรกรหนุ่มพยายามมีสมาธิกับการทำงานของเขา
แต่สาวน้อยที่มาเป็นแบบให้วาดก็ทำให้ตบะของเขาขาดผึง
ไอ้หนุ่มกระโจนใส่เธอ กอดไว้แน่น แล้วระดมจูบอย่างเร่าร้อน
"อย่านะ" เธอผลักไอ้หนุ่ม
"คุณอาจจะทำยังงี้กับนางแบบคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่ชั้นแน่!!!"
"
แต่ผมไม่เคยทำยังงี้กับแบบของผมมาก่อนเลยจริงๆนะครับ" ไอ้หนุ่มท้วง
"คุณพูดจริงเรอะ" เธอทำท่า
ม่อยากจะเชื่อ
"คุณวาดมาเท่าไหร่แล้ว ?"
"
สี่..." จิตรกรหนุ่มว่า " เหยือกน้ำ แอปเปิ้ล ตะกร้า แล้วก็คุณนี่แหละ!!!"

วันนี้ คุณยิ้ม แล้ว รึยัง :: ยิ้มหมายเลข 4 ::

แอร์โฮสเตสสายการบินที่ตกบ่อยๆประกาศก่อนเครื่องออก


"ท่านผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ เที่ยวบินสู่เมืองปักกิ่งกำลังจะออกเดินทางณบัดนี้แล้ว เพื่อความปลอดภัยขอให้ทุกท่านโปรดคาดเข็มขัดนิรภัย ท่านที่พบว่าเข็มขัดนิรภัยตรงที่นั่งท่านชำรุด กรุณามัดไว้ด้วยเงื่อนพิรอดนะคะ กรุณาอย่าใช้เงื่อนตาย ถ้าท่านหาสายรัดเข็มขัดนิรภัยไม่พบกรุณาย้ายไปที่นั่งอื่นที่ว่างอยู่ ทั้งนี้ขอให้ท่านได้โปรดวางใจ ถึงแม้เครื่องบินของเราจะเก่าแต่ทั้งนักบินและนักบินผู้ช่วยของเรายังใหม่อยู่นะคะ..."

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2550

30 วิธีไม่จ่ายตังค์รถเมลล์


1. เลือกคันที่มนุษย์แน่นเอี๊ยดเหมือนปลากระป๋อง

2. ถ้ากระเป๋าอยู่ประตูหน้าให้ขึ้นประตูหลัง พอกระเป๋าเดินมาถึงให้รีบลง แล้ววิ่งไปขึ้นประตูหน้า เล่นไล่จับกัน

3. ในกรณีกระเป๋ารถไม่เห็นให้ แกล้งหลับ

4. ถ้ากระเป๋ารถเห็นให้หลับจริงๆ (อย่าลืมกรน ครอกฟี้ยยย....ด้วยเพื่อความสมจริง)

5. หรือไม่ก็แกล้งหลับตั้งแต่ป้ายรถเมล์ จากนั้นพอรถจอด ก็ละเมอย้ายร่างขึ้นรถไป (วิธีนี้เนียนมากๆ ขอแนะนำ)

6. ใส่ชุดคอสเพลย์สไปเดอร์แมน โดดเกาะหลังคารถ อย่าให้คนในรถเห็น

7. ใส่ชุดนักเรียนอนุบาลเอี้ยมแดง (สำหรับผู้ที่หน้าแก่มาก ควรเพิ่มออปชั่นเพื่อความน่าเชื่อถือ กระติกน้ำ กล่องข้าว หุ่นยนต์กิงก้าแมน ฯลฯ)

8. ปริ๊นตั๋วเถื่อน

9. อุ้ย.. โทษ ข้อ 8 ท่าจะแรงไป เปลี่ยนเป็นเอาเศษกระดาษเล็กๆ มานั่งบี้จะดีกว่า

10. ใช้ สกิลล่องหน

11. แกล้งกระเป๋าตังค์หาย ทำหน้าตาน่าสงสารที่สุด เท่าที่จะทำได้ จากนั้นขอยืมเงินเป๋ารถเมล์

12. ตัดขาทิ้งไปข้างนึงก่อนขึ้นรถ

13. แต่งชุดอีทีขึ้นไปบนรถ จากนั้นขอเจรจากับกระเป๋า รถในฐานะทูตสันติภาพแห่งอวกาศ

14. แกล้งเอาแขนซุกในเสื้อ ปลอมเป็นคนแขนด้วน แล้วบอกเป๋ารถด้วยเสียงหวานซึ้งว่า ตังค์อยู่ในกุงเกงในอ่ะ หยิบให้หน่อยจิ ตะเอง

15. ใส่ชุดกระเป๋ารถขึ้นไป แล้วทำท่าตกใจเมื่อเจอกระเป๋ารถ ?อ๊ะ ..! แกเป็นใคร?

16. กอดคอกระเป๋ารถด้วยท่าทีสนิทสนมสุดขีด ก่อนทักทายด้วยเสียงอันดังก้อง ?เฮ้ย เป็นไงบ้างเพื่อนร่วมโลก ไม่ได้เจอกันนาน... เป็นกระเป๋ารถเหรอ พยายามเข้านะ เรื่องตังค์ไม่ต้องห่วง เราจ่ายแน่ แต่ไม่ใช่วันนี้ ?

17. พูดภาษา อูกันด้า กับกระเป๋ารถเมล์

18. เดินเข้าไปผลักคนขับรถออกจากที่นั่ง ?มา..!! ตูขับเอง?

19. ระหว่างก้าวขึ้นให้แกล้งคุยโทรศัพท์ เสียงดังให้ได้ยินทั้งรถ เฮ้ย X ถนอม!! กระเป๋ารถที่เก็บตังค์เราวันนั้น มันออกจากห้องไอซียูรึยังวะ หา... อะไรนะ ยังไม่ออกอีกเหรอ X เราก็ว่าเบามือแล้วนะ ?

20. ร้องไห้ แล้วรำพึงรำพันเสียงดัง ?ฮือ.... ทำไม... ทำไมแค่นี้ต้องเก็บเงินกันด้วย อำมหิต ชั้นไปทำอะไรให้แก ?

21. ถามทั้งกระเป๋าและคนขับว่า ?เฮ้ย นี่เก็บเงินข้าเหรอ..! นี่แกไม่รู้รึไงว่าชั้นเป็นลูกใคร!!! ? (วิธีนี้ออกแนวความจำเสื่อม ฟังไม่ขึ้น ไม่ขอแนะนำให้ใช้)

22. (หมายเหตุจากข้อ 21 : ? โห... ทำยังกะวิธีในข้ออื่นมันฟังขึ้นงั้นแหละ ? )

23. แกล้งเสมือนว่าขึ้นรถผิดคัน แล้วขอลงป้ายหน้า ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ (โอ... วิธีนี้ค่อยยังชั่วหน่อย) เพื่อความเนียนควรถามทางกระเป๋ารถด้วย ? อืม คันนี้ผ่านลอสแองเจลลิสมั้ยครับ อ๋อ ไม่ผ่านเหรอ งั้นขอลงป้ายหน้าละกัน ??!!??

24. บอกกระเป๋ารถเสียงดังว่า ?เก็บอะไร๊ !!! ตูจ่ายแล้ววว ? ทั้งๆ ที่ทุกคนเห็นแกขึ้นรถมาเมื่อกี้ก็ตาม

25. ถามกระเป๋ารถว่า ? คุณเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยที่อยู่ข้างหลังผมมั้ย .. ?? เห็นมั้ย ไม่เห็นเหรอ เธอบอกผมว่า อย่าไปจ่ายย.... อย่าไปจ่ายมันน..... ?

26. ควักแบ๊งค์พันให้ ยิ้ม แล้วพูดเสียงเขินๆ ?ป๋มไม่มีเศษเยยอ่ะคับพี่ งุงิ งุงิ ?

27. พอกระเป๋าถึงตัวให้ตกใจสุดขีด จากนั้นแกล้งเป็นลม (ถ้ามีความสามารถจะกระตุกลมบ้าหมูเพิ่มเข้าไปก็ได้ )

28. แกล้งหยิบปืนขึ้นมา แล้วพูดว่า ?อุ๊ย หยิบมาผิด นึกว่ากระเป๋าสตางค์ โอ ไม่นะ งั้นเป๋าตังค์ก็อยู่บ้าน อ่ะดิ ตอนนี้จ่ายด้วยลูกปืนไปก่อนได้มั้ย ?

29. มองหน้ากระเป๋ารถด้วยสี หน้าที่กวนอวัยวะที่ใช้สวมรองเท้ามากที่สุด เอียงคอ ยกขาเล็กน้อย ปากเบี้ยวพอประมาณ ยักไหล่พอเป็นจังหวะ แล้วเอ่ยเสียงเพราะๆ ว่า ?ตูไม่ให้!!!! ?

จากนั้นก็จะมีเรื่องฟาดปากกัน ไม่ต้องจ่ายค่ารถแน่นอน ไปจ่ายค่าทำแผลแทน

30. เอ่อ จ่ายๆ ไปเหอะ ทำเป็นเรื่องมากไปได้ ทีวีซีดีการ์ตูน แผ่นละเกือบร้อยแกยังจ่ายกันได้เลย ใช่มะ

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ความแปรปรวนของธรรมชาติ

ทำไมหว่า ฝนตกไม่หยุดเลย มันหน้าหนาวแล้วนะเนี่ย อยากใส่เสื้อกันหนาว เลยไปค้นมาเล่าสู่กันอ่าน

แคร์ทำไมก็แค่ "โลกร้อน"

คิดไปคิดมา "โลกไม่ได้ร้อนนิ แต่กูนะร้อน"

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2550

โรคทรัพย์จาง

โรค MONEYPHILIAโรคทรัพย์จาง มีศัพท์ทางวิชาการว่า MONEYPHILIA เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า MONEY และ PHILIA มีลักษณะคล้ายกับโรค HEMOPHILIA ซึ่งโรค HEMOPHILIA ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดไหลไม่หยุด และโรคชนิดนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรม แต่ MONEYPHILIA เป็นโรคที่เงินไหล ออกจากกระเป๋าไม่หยุด จนเกิดทรัพย์จางได้

การติดต่อ
โรค นี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรมเช่นกัน แต่ติดต่อกันเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง ซึ่งไม่สามารถจัดสรรรายได้ให้ได้ สัดส่วน กับรายจ่าย ว่ากันง่าย ๆ ก็คือรายจ่ายมากกว่ารายได้นั่นเอง ในทุกวันนี้โรคดังกล่าวได้เริ่มระบาดในหมู่คนไทยที่มีรายได้น้อย ถึงรายได้ปานกลางมาสองสามปีแล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต ตลอดจนบั่นทอนความเจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน บั่นทอนสุขภาพ บั่นทอนชีวิตครอบครัวและสังคมโดยร่วม ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดของโรคนี้ เพื่อหาวิธีหลีกเลี่ยงหรือป้องกันแต่เนิน ๆ

ระยะฟักตัวของโรค
เชื้อ จะเริ่มฟักตัวประมาณวันที่ 15 ของเดือน แต่ก็ไม่แน่ทุกคนไป เพราะบางคนเชื้ออาจจะเริ่มฟักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 5 ของเดือนก็มี และบางรายอาการรุนแรงจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนทีเดียว อาการจะปรากฏเร็วหรือช้า รุนแรงหรือไม่รุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ และชนิดรายได้ของแต่ละบุคคล ซึ่งแบ่งตามพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้ป่วย อีกทั้งขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคแทรกซ้อนที่มือด้วย ว่าเป็นโรคมือเติบหรือไม่ หากเป็นโรคมือเติบด้วย จะยิ่งทำให้การรักษา หรือป้องกันเป็นไปได้ยาก และระยะฟักตัวของโรคก็จะรวดเร็ว อีกทั้งอาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

อาการ
ผู้ ป่วยจะเริ่มมีอาการเหม่อลอย ไม่สบตาผู้อื่นโดยเฉพาะเจ้าหนี้ เหงื่อซึมออกตลอดเวลา หงุดหงิด สูญเสียความเชื่อมั่น ไร้สมาธิในการทำงาน เบื่ออาหาร หิวแต่ทานไม่ลง เพราะอาหารน้อย คุณภาพต่ำเนื่องจากด้อยกำลังซื้อ รสชาติไม่ถูกปาก ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงถึงกับทำอัตวินิบาตกรรม บางรายมีอาการผวาเมื่อถูกเรียกชื่อ พวกที่มีอาการรุนแรงบางจำพวกจะทำการประชดชีวิตโดยการเดินมาทำงาน แทนการโดยสารรถประจำทาง หรือแท็กซี่ หรือพยายามขึ้นรถโดยสารที่มีคนแน่นมาก ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกระเป๋ารถเมล์ หรือเพื่อที่จะได้หลบหลีกระหว่างบันไดหน้ากับบันไดหลังสลับไปมาได้รวดเร็ว และ ทันท่วงที อีกทั้งเพื่อพยายามให้ได้รับอากาศที่ปลอดโปร่ง จะได้กินลมเพื่อลดอาการหน้ามืด

การป้องกัน
ไม่ ควรนำเด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ เมื่อผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด มิฉะนั้นจะได้รับอันตรายจากผู้ป่วยได้ ไม่ควรนำของมีค่าเข้าใกล้ในระยะสายตาและมือเอื้อมถึง

การรักษา
ยังไม่มียาชนิดใดที่จะบำบัดโรคนี้ได้โดยตรงในปัจจุบัน แต่สามารถรักษาได้ตามอาการที่ปรากฏ เช่น

ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ (เป็นกันโดยมาก) ก็ควรใช้ยาลดไข้ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง ได้แก่ยาพาราเซตามอล ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ
ถ้าผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ควรใช้ยาคลายประสาท ตามที่แพทย์แนะนำ ห้ามใช้เกินขนาด เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ (ห้ามใช้สตริกนินโดยเด็ดขาด)
ควร ให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย พักผ่อน ในที่ลับตาคน อย่าพาผู้ป่วยออกนอกบ้าน เพราะอาจเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ได้ การกระทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว กลับจะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ อาการดูน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่อาการของผู้ป่วยจะกระเตื้อง ตื่นเต้นได้อีกครั้งก็ถึงตอนปลายเดือนนั้น ๆ แต่บางรายก็ไม่ดีขึ้น กลับทรุดหนักลงไปอีก เนื่องจากการอักเสบของดอกเบี้ย
ไม่ควรนำผู้ ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชนเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการช็อคได้ เมื่อเห็นใบแจ้งหนี้ ทางที่ดีควรนำไปรักษายังสถานธนานุเคราะห์,สถานธนานุบาล โดยให้ผู้ป่วยนำของที่มีค่าติดตัวไปด้วย ซึ่งเป็นการรักษาอย่างปัจจุบันทันด่วน และตรงตามอาการของโรคมากที่สุด

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2550

มารู้จักแผ่น DVD ทั้งแท้และผีกัน

เกี่ยวกับตัวแผ่น...................................................
แผ่นแท้ หมายถึง แผ่นที่ผู้ผลิตได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แผ่นผี,แผ่นก๊อป หมายถึง แผ่นที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์แผ่นแท้

แผ่นโคลน หมายถึง แผ่นที่ก็อปปี้แผ่นแท้มาอย่างสัมบูรณ์ ด้วยไม่มีการเพิ่มเติมหรือตัด ส่วนใดๆ

แผ่นวีเกอร์ (vigor disc) หมายถึง แผ่นผีที่การเพิ่มเติมบางอย่าง (โดยไม่ตัดส่วนหนึ่งของแผ่นแท้ออก) ทำให้มี Function บางอย่างมากกว่าแผ่นแท้ เช่น มีเสียงไทย, มีเสียง DTS, มีตัวอย่างหนังเพิ่มขึ้น, แผ่นต้นฉบับโซน1 เพิ่มซับโซน3 เป็นต้น (vigor เป็นคำศัพท์ในแวดวง การปรับปรุงพันธุ์ หมายถึง ตัวลูกที่สามารถแสดงลักษณะเด่น ได้ดีกว่า พ่อแม่ ไม่ใช้คำว่า Modify เพราะ Modify อาจจะไม่ดีกว่าแผ่นแท้ เช่นตัดฟีเจอร์ออก แต่ใส่เสียงไทยเข้าไป : ศัพท์บัญญัติ)

แผ่นGMO , แผ่น MO , แผ่นตัดต่อพันธุกรรม หมายถึง แผ่นผีที่การเพิ่มเติมบางอย่าง (โดยอาจจะตัดบางส่วน หรือไม่ตัดส่วนหนึ่งของแผ่นแท้ออก) ทำให้มี Function บางอย่างมากกว่าหรือน้อยกว่าแผ่นแท้ก็ได้ เช่น มีเสียงไทย, มีเสียง DTS, มีตัวอย่างหนังเพิ่มขึ้น, แผ่นต้นฉบับโซน1 เพิ่มซับโซน3 หรือ เพิ่มเสียงไทยแต่ตัดซับไทยออก เป็นต้น

แผ่นแม่สาย(อาหารเหนือ) หมายถึง แผ่นที่มีที่มาจาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า มีหีบห่อที่สวยงาม มักมีภาษาจีนอยู่บนปก ช่วงหลังๆ ภาษาจีนน้อยลง
แผ่นมาเลย์ หมายถึง แผ่นที่มาจากประเทศมาเลย์เซีย มักจะมีซับไทยที่ไม่ได้เรื่อง มักจะมีหนังที่แปลกๆที่บ้านเราไม่มีขาย

แผ่นกรรมการ หมายถึง แผ่นที่เจ้าของหนังทำขึ้นมาเพื่อให้กรรมการพิจารณา แล้วโดนจับมาใส่ซับไทย และหรือ ซับอังกฤษ และหรือ เสียงไทยเข้าไป

แผ่น5 หมายถึง DVD 5 (มีความสามารถจุข้อมูลได้ 4.7 GB ส่วนจะมีข้อมูลอยู่เท่าไรนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิต)

แผ่น9 หมายถึง DVD 9 (มีความสามารถจุข้อมูลได้ 8.7 GB ส่วนจะมีข้อมูลอยู่เท่าไรนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิต)

แผ่น10, DVD10 หมายถึง ดีวีดีห้าแบบสองหน้า เล่นจบหน้าแล้วพลิกกลับไปเล่นอีกหน้า (มีความสามารถจุข้อมูลได้ 2 เท่าของ DVD 5 ส่วนจะมีข้อมูลอยู่เท่าไรนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิต) เช่น showgirl หรือแผ่นแท้โซนสามที่มีสองหน้า

แผ่น 18 ,DVD 18 หมายถึง ดีวีดีเก้าแบบสองหน้า เล่นจบหน้าแล้วพลิกกลับไปเล่นอีกหน้า (มีความสามารถจุข้อมูลได้ 2 เท่าของ DVD 9 ส่วนจะมีข้อมูลอยู่เท่าไรนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิต)

แผ่น 14 ,DVD 14 หมายถึง ดีวีดีเก้า+ดีวีดีห้า เล่นจบหน้าแล้วพลิกกลับไปเล่นอีกหน้า (มีความสามารถจุข้อมูลได้เท่ากับ DVD 9+DVD 5 ส่วนจะมีข้อมูลอยู่เท่าไรนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิต)
แผ่นประหยัด หมายถึง แผ่น DVD 5 ที่ทำมาจากต้นฉบับที่เป็น DVD 9 เช่นการตัดบางส่วนออก, ลดบิทเรท เป็นต้น

แผ่นกระเบื้อง หมายถีง แผ่นไม่ดี (อาจจะกระตุก ซับนรก นางแบบไม่ได้เรื่อง) ซื้อมาแล้วไม่ชอบ นำไปเปลี่ยนไม่ได้ จำใจเก็บไว้

แผ่นGM-18 หมายถึง หนังที่บรรจุในแผ่นเป็นหนังโป๊ ทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น จีน ไทย และหนังเกย์

Boxset หมายถึง หนังที่ทำออกมาจำหน่ายเป็นชุด อาจมีกล่อง หรือไม่มีกล่องก็ได้ อาจจะเป็นเรื่องเดียวแต่ทำออกมาจำหน่ายพร้อมกับแผ่นที่บรรจุฟีเจอร์พิเศษ เช่น LOTR ภาค1 (Boxset), BOB อาจเป็นหลายเรื่องแล้วขายเป็นชุดก็ได้ เช่น เจอร์รี่ บัคเค็นเมน Boxset, ฮิต ค็อก (Boxset)

เกี่ยวกับซับไตเติ้ล...................................................
ซับมาเลย์ หมายถึง แผ่นผีที่มีบรรยายไทยแบบห่วยๆ มักจะแปลด้วยเครื่อง มักจะมากับแผ่นมาเลย์ (อาจรวมเรียกเป็นซับนรกได้)
ซับนรก หมายถึง แผ่นผีที่มีบรรยายไทยแบบห่วยๆถึงทุเรศ
ซับโซน3 หมายถึง แผ่นผีที่มีบรรยายไทยแบบเดียวกับแผ่นแท้
ซับหาย หมายถึง ตัวหนังสือที่บรรยายไทย(หรือภาษาอื่นๆมักจะเกิดขึ้นกับอักษรไทย) ไม่ปรากฎขึ้นมาในขณะที่ตัวละครพูดหรือเล่าเรื่อง หรือบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ
ซับตกขอบ หมายถึง ตัวหนังสือที่บรรยายไทย (หรือภาษาอื่นๆมักจะเกิดขึ้นกับอักษรไทย) ไม่สามารถแสดงผลได้ครบถ้วน ด้วยเกินออกไปนอกจอ ทั้งด้านข้าง และด้านบนล่าง
ซับdelay, ซับมาช้า หมายถึง ตัวหนังสือที่บรรยายไทย (หรือภาษาอื่นๆมักจะเกิดขึ้นกับอักษรไทย) ปรากฎขึ้นมาช้ากว่าเสียงในขณะที่ตัวละครพูดหรือเล่าเรื่อง หรือบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ
ซับมาเร็ว หมายถึง ตัวหนังสือที่บรรยายไทย(หรือภาษาอื่นๆมักจะเกิดขึ้นกับอักษรไทย) ปรากฎขึ้นมาเร็วกว่าเสียงในขณะที่ตัวละครพูดหรือเล่าเรื่อง หรือบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ
ซับกระพริบ อันนี้ตรงตัวเลยครับ หมายถึง ตัวหนังสือที่บรรยายไทย (หรือภาษาอื่นๆมักจะเกิดขึ้นกับอักษรไทย) ปรากฎขึ้นมาในขณะที่ตัวละครพูดหรือเล่าเรื่อง หรือบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ แต่กระพริบ

เกี่ยวกับเสียง...................................................
เสียงไทย หมายถึง มีพากย์ไทยด้วยในแผ่น
เสียงโรง หมายถึง มีพากย์ไทยแบบเดียวกับการพากย์ไทยในโรงภาพยนต์ด้วยในแผ่น
เสียงCVD หมายถึง มีพากย์ไทยแบบเดียวกับการพากย์ไทยในVCD ของบริษัท CVD ด้วยในแผ่น
เสียงDTSปลอม หมายถึง การที่แผ่นมีเสียงระบบ DTS (อาจจะเป็นได้ทั้ง เสียงไทย หรือเสียงอังกฤษ ) โดยที่แผ่นแท้ (ไม่ว่าโซนไหน) ไม่ได้มีเสียงระบบ DTS

เกี่ยวกับตัวหนัง...................................................
หนังซูม หมายถึง หนังที่ใช้กล้องไปถ่ายมาจากโรงภาพยนต์ ซึ่งก็ไม่เคยมีเรื่องไหนดีเลย หนังซูมเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหนังชนโรง
หนังชนโรง หมายถึง หนังที่มีวางขายพร้อมๆกับหนังที่กำลังเข้าโรงฉายอยู่ตามโรงภาพยนต์ทั่วไป อาจจะเป็นพวก หนังซูม, หนังกรรมการ หรือ เกิดจากหนังเรื่องนั้นเข้ามาฉายช้า จนมีแผ่นโซนอื่นๆทำออกมาขายแล้วหนังแซงโรง หมายถึง หนังที่มีวางขายก่อนหน้าที่หนังเรื่องนั้นที่กำลังจะเข้าโรงฉายอยู่ตามโรงภาพยนต์ทั่วไป อาจจะเป็นพวก หนังซูมจากต่างประเทศ, หนังกรรมการ หรือ เกิดจากหนังเรื่องนั้นเข้ามาฉายช้า จนมีแผ่นโซนอื่นๆทำออกมาขายแล้ว


เกี่ยวกับรหัส............................................
D9+D5 หมายความว่า ในกล่องDVDชุดนี้ ประกอบไปด้วย DVD9 จำนวน 1 แผ่น และ DVD5 จำนวน 1 แผ่น ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งมีจำนวน 1 แผ่น จะไม่เขียนเลข 1 นำหน้าตัวดีครับ ลักษณะรหัสแบบนี้มักปรากฎตรงสันกล่อง หรือ มุมล่างๆ ของ DVD ที่มาจากแม่สาย ตัวอย่างลักษณะรหัสแบบนี้ เช่น 7D9=DVD9 จำนวน 7 แผ่น, 5D9+D5=DVD9 จำนวน 5 แผ่น และ DVD5 จำนวน 1 แผ่น หรือ 2D9+CD=DVD9 จำนวน 2 แผ่น และมี CD AUDIO (อาจจะเป็น OST หรือไม่ก็ได้)
D2D (DVD To DVD) หมายถึง การทำสำเนาจากต้นฉบับที่เป็น DVD ไปเป็น DVD
V2D (VCD To DVD)หมายถึง การทำสำเนาจากต้นฉบับที่เป็น VCD หลายๆแผ่น ไปเป็น DVD

อื่นๆเกี่ยวกับแวดวงDVD...................................................
พี่ตั้ม หมายถึง ตำรวจ
เท้าสั่น หมายถึง พันทิพย์ พล่าซ่า
อทม. หมายถึง ไอทีมอลล์
ถม หมายถึง คอลงถม รวมถึงแถวคลองถมเซ็นเตอร์
พ่อครัว หมายถึง คนขายแผ่นในบอร์ด

พ่ออยู่ไหน???


Subject: วิเคราะห์ คณิตศาสตร์
เค้าวิเคราะห์กันถูกรึเปล่าคะ.. ใครเก่งคณิตศาสตร์ช่วยตอบหน่อยนะ.. ถามว่า
ปัจจุบันแม่มีอายุมากกว่าลูก 21 ปี และ อีก 6 ปีข้างหน้าแม่จะมีอายุเป็น 5 เท่าของลูก
อยากทราบ ว่า พ่ออยู่ที่ไหนคะ ?
เป็น งง ..... โปรด.... คิดคำนวณ ก่อนดูคำตอบนะคะ


















...........................................................................................







เมื่อใช้คณิตศาสตร์ชั้นต้น สมมติให้ลูกมีอายุเป็น X
ส่วนแม่มีอายุเป็น X+21
และในอีก 6 ปีข้างหน้า (X+21)+6 = 5(X+6)
และแก้สมการออกมาจะได้ว่า X มีค่าเป็น -0.75
แปลความหมายได้ว่า ลูกมีอายุ (ลบ 0.75) ปี คือ ลบ 9 เดือน
ทำให้สรุปได้ว่าลูกกำลังปฏิสนธิ

***** ทำให้ปัจจุบันนี้พ่อจึงอยู่บนตัวแม่อย่างไม่ต้องสงสัย .........ฮา ฮา ฮา

--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
ที่มาจาก http://www.pooyingnaka.com

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550

แปลชื่อหนังฝรั่งเป็นไทย

ฮา จริงๆ ไม่รู้ เค้าแปลกันได้ไง นะ อิอิ

Mummy ......... แม่จ๋า
Mummy Return.........แม่จ๋ากลับมาเถอะ
Gone with the Wind ......... ลอยไปตามลม
xXx ......... หนังโ ป๊
X-Men ......... ผู้ชายหื่น
Flyboys ......... กระหัง ??
Dragon ball.........แก้วมังกร(อร่อยดี)
Saving Private Ryan............................ บัญชีสะสมทรัพย์ส่วนตัวของคุณไรอั้น (- _ -)'
James Bond Dr. No.................................เจมส์ พันธบัตร ตอน คุณหมอปฏิเสธ (make sense สุดๆ)
Catch me if you can ......... จับฉันถ้าคุณกระป๋อง (เวอร์ชั่นซับนรกจริงๆ)
Pearl harbor............................ท่าไข่มุก (อำเภอ ท่ามะกา)
Saw1 Saw2 Saw3 Saw4...............................เห็นแล้ว1 เห็นแล้ว2 เห็นแล้ว3 เห็นแล้ว 4
Home alone......... บ้านเดี่ยว
Ghost Ship ......... ผีเล่นพนัน
What women want ......... ผู้หญิงอยากอะไร (นั่นน่ะสิ)
Women On Top .........ผู้หญิง (อยาก) อยู่ ข้างบน
U-571.........คุณไม่ใช่คนแรก (อิอิ)
8 MM......... 8 มิลลิเมตร (โห โคตรสั้นเลย)
A whole nine yard.........ยาวทั้งหมด 9 หลา (นี่ก็โคตรยาวเลย)
8 Mile.........12.87 กิโลเมตร
Ocean's eleven........................... 11 มหาสมุทร
Ocean's twelve..................................... 12 มหาสมุทร (เป็น 20 มหาดินสอ)
Eight below...................................ใต้เลขแปด (เลขเจ็ด ??)
20,000 leagues under the sea.....................(ใต้ทะเลมีบอลให้แทงอีกหลายคู่)
Mystic River ..... .........แม่น้ำ น่าสงสัย (อืมม)
Who am I.........ผมเป็นใคร ?
I am Sam......... ผมคือยุรนันท์
Payback............................จ่ายคืนหลัง (เพราะกองหน้าโดนประกบหมด)
Paycheck ......... จ่ายด่วน ระวังเด้ง
Pay it forward.........จ่ายล่วงหน้า (สงสัยเป็นระบบเติมเงิน)
Cheaper by the dozen.........เหมาโหลถูกกว่า อันนี้เป็นชื่อไทยตามแบบหนังสือเด๊ะๆ
Twelve Monkeys.........ลิงโหลนึง (บอกแล้วว่าเหมาโหลมันถูก)
Charlieดs Angel......... นางฟ้าของชาลี
Charlie and The Chocolate Factory......... ชาลีกับโรงงานช็อกโกแลต (มืงมีหลายอย่างจังนะชาลี)
Firewall...........................กำแพงไฟ (ละครช่องเจ็ด หรือเปล่าพี่)
Star wars - return of the jedi........................ กำแพงดาว (ก็ได้ยินเป็น Star wall อะ) ภาคกลับรถที่เจดีย์
Star gate...........................ประตูดาว (ภาคต่อของเรื่องข้างบน)
Inside man...........................ข้างในคนผู้ชาย (หนังเรียนผ่าตัดของคณะแพทย์เหรอ)
Dirty Dozen.............................โหลสกปรก (ก็เอาไปล้างสิ)
Van Helsing......... รถตู้นรกร้องเพลง
Deep Impact ......... กระแทกลึกๆ
Red Eyes ......... ตาแดง (ไปหาหมอสิ)
Tomorrow Never Dies ......... พรุ่งนี้ก็ไม่ตาย
Die Another Day ......... ตายวันอื่น (ก่อนหน้านี้มันบอก พรุ่งนี้ก็ไม่ตาย)
The man in the iron mask .........คนผู้ชายในหน้ากากเตารีด
Toy Story.........เรื่องของต้อย???
Iron will .............................จะเหล็ก
The Silence of the Lamb .........ลูกแกะเงียบ (หนังเศร้า ชีวิตลูกแกะใบ้)
Die Hard ......... (ตายแข็ง - แข็งตาย)
Con Air ......... ข้าวโพดผึ่งลม
Cast Away ......... ขว้างไปไกลๆ
Windtalkers ......... ลมพูดได้
Million Dollar Baby .........ล้านดอลจ๊ะที่รัก
Bigfish .........ปลาบึก
The net.........ตาข่าย
The Matrix.........ติวคณิต พิชิตเอ็นทรานซ์
The Fantastic 4.........4 ยอดกุมาร
Ultraviolet.........มหาม่วง (หนังเกย์)
The Day After Tomorrow.........มะรืนนี้
Notting Hill.........ไม่มีอะไรที่ภูเขา
Cat Woman.........แมวตัวเมีย
Bat Man.........ค้างคาวตัวผู้

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

ผู้ชายไม่กินเหล้า ....

ชายคนหนึ่งเดินออกจากผับ มีขอทานคนหนึ่งหน้าตามอมแมม ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง

" พี่ขอเงินสัก 20 ซิผมยังไม่กินข้าวเลย " ขอทานเอ่ยปาก

ชายหนึ่งหยุดกึ่ก........ แล้วบอกว่า

" เอาอย่างนี้ ไปกินเหล้ากับพี่ พี่เลี้ยงเอง "

ขอทานบอก " ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่กินเหล้า "

ชายหนุ่มเลยบอก " นั้นไปเล่นม้ากับพี่ไหม พี่ออกทุนให้ "

ขอทานก็ยังปฎิเสธ " ผมไม่เล่นการพนันคับ "

ชายคนนี้เลยถามต่อ " เอาอย่างนี้นั้น พี่พาไปลงอ่างดีกว่า "

ขอทานก็ตอบอีกว่า " ผมไม่เที่ยวผู้หญิงด้วยคับ "

ชายหนุ่มเลยยิ้มนิดๆๆ เหมือนถูกใจแล้วถามว่า

" เมื่อกี้น้องขอตังค์ พี่เท่าไรนะ"

ขอทานบอก : 20 ครับพี่

ชายหนุ่มเลยก้มหน้าไปกระซิบว่า : เอางี้แล้วกันพี่ให้น้อง 200 เลย

ไปที่บ้านกับพี่หน่อยเด้อ !!!

ขอทานทำหน้า งงงง : ทำไมเหรอคับ พี่

ชายหนุ่มควักตังค์ แล้วพูดว่า : ไปให้เมียพี่มันดู หน่อยว่ะ ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวผู้
หญิงนะ สภาพมันเป็นอย่างไร..





--
จัดไป อย่าให้เสีย...... �

คืนที่ฟ้าฉ่ำฝน

... ตายายคู่หนึ่งจูงมือ ค่อย ๆ พากันเดินเข้าร้าน McDonalds แลดูแปลกตาท่ามกลางเหล่าวัยรุ่นหนุ่มสาว สายตาหลายคู่จ้องมองมาอย่างชื่นชมในความรักที่ยืนยาวมากว่าครึ่งศตวรรษของสองตายาย

ตาเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์สั่งอาหารชุด และชำระเงินอย่างคุ้นเคย

ก่อนพายายไปเลือกหาที่นั่งริมในสุดของร้าน

ตายายช่วยกันนำอาหารออกจากถาด ตาค่อย ๆ แบ่งแฮมเบอร์เกอร์ออกเป็น 2 ส่วน
เอาเฟรนช์ไฟร์ออกมานับครึ่ง และจัดวางไว้ดูน่ารับประทานข้างหน้ายาย คว้าแก้วโค้กมาจิบหนึ่งอีก ส่งให้ยายรับไปจิบหนึ่งอึกก่อนจะวางไว้ตรงกลางเบื้องหน้าทั้งคู่

ขณะที่ตาเริ่มกินแฮมเบอร์เกอร์ส่วนของตนอยู่

บรรดาลูกค้าในร้านที่จับตาดูคู่ตายายมาตั้งแต่ต้นเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย หลายคนสะกิดกันพลางกระซิบ ......

"น่าสงสารจังแกคงมีเงินพอซื้อได้แค่ชุดเดียวมาแบ่งกันมั้ง"

ชายหนุ่มโต๊ะข้าง ๆ ถึงกับเดินเข้ามาหาพร้อมเสนอตัวขอเป็นเจ้ามือซื้อให้อีกชุดอย่างสุภาพ ตายิ้มรับความมีน้ำใจ แต่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า

"ไม่เป็นไรหรอกมีอะไรเราก็ต้องเอามาแบ่งกันอยู่แล้ว"

เวลาผ่านไป ทุกคนเริ่มสังเกตว่า ยายได้แต่นั่งนิ่งจ้องมองตากินแฮมเบอร์เกอร์อย่างเอร็ดอร่อย ไม่ยอมแตะต้องส่วนของตน นอกจากหยิบโค้กขึ้นมาจิบ ชายหนุ่มคนเดิมตัดสินใจเข้ามาหาอีกครั้ง เอ่ยขอร้องให้เขาได้เลี้ยงคู่ตายายที่น่ารักนี้เถอะ คราวนี้ยายเป็นฝ่ายปฏิเสธอย่างอ่อนหวาน ยืนยันเหมือนเดิมว่ามีอะไรก็ต้องเอามาแบ่งกัน

เมื่อตารับประทานเสร็จ ขณะหยิบกระดาษมาเช็ดปาก

ยายก็ยังคงนั่งนิ่งดูสามีสุดที่รักอยู่อย่างนั้นราวกับกลัวว่าเขาจะไม่อิ่มจริงๆ ชายหนุ่มคนเดิมก็อดรนทนไม่ได้อีก เอ่ยปากอย่างจริงจังขอตายายอนุญาตให้เขาเลี้ยงสักครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างสุภาพอีก ... ชายหนุ่มนึกสงสัย

"ทำไมคุณยายไม่รับประทานบ้างเลยครับ ก็ไหนบอกว่ามีอะไรก็ต้องเอามาแบ่งกันไง
คุณตาก็ทานเสร็จแล้ว ยังรออะไรอยู่หรือครับ? "

คุณยายตอบเนิบ ๆ ??

"รอฟันปลอมจากตาน่ะหลานชาย..." (แหะ ๆๆ)

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550

ความยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีไทยในอดีต

เรื่องที่จะเล่าต่อให้ฟังนี้ ถูกบันทึกตีพิมพ์ในวารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดเร็วๆนี้ เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคนไทยในอดีต เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อปีที่แล้ว นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศส ได้ร่วมกันทำการขุดพื้นดินใต้ฐานหอไอเฟลที่กรุงปารีสลงไปประมาณ 1,000 เมตรและได้พบกับเศษวัสดุชิ้นส่วนเส้นทองแดงเก่า จากการนำมาตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็ป ทางการฝรั่งเศสก็ออกมาประกาศการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ชาติฝรั่งเศสเลยทีเดียวว่าคนฝรั่งเศสมีการใช้ระบบโทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกันเป็นทางการเมื่อกว่าพันปีก่อน

หลังจากนั้นอีกสามสัปดาห์ นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยของอังกฤษก็ไม่ยอมแพ้ เริ่มทำโครงการแห่งชาติขุดเจาะพื้นใต้หอคอยลอนดอน หลังจากขุดลึกลงไปได้ราว 2,000 เมตร ก็ต้องพบกับความน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะทีมนักสำรวจได้ขุดกระแทกเข้ากับเศษวัสดุบางอย่างคล้ายพลาสติกใสแข็งเหมือนแก้วกระจัดกระจาย ไม่รอช้านักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษนำตัวอย่างชิ้นส่วนที่ได้เข้าอาคารวิจัยแห่งชาติ หลังจากนั้นอีก 2-3 วันต่อมานายกรัฐมนตรีของอังกฤษก็ออกมาประกาศความภูมิใจของคนทั้งชาติว่า ชาวอังกฤษเป็นชาติแรกที่ริเริ่มการนำเคเบิลใยแก้วนำแสงมาใช้ในการติดต่อสื่อสารข้อมูลกว่าสองพันปีมาแล้ว

หลังจากนั้นต่อมาอีกหลายสัปดาห์ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่ได้นั่งคิดนอนคิดมานานก็ออกมาประกาศโครงการขุดพื้นดินใต้ทำเนียบรัฐบาลว่าจะต้องหาสิ่งที่คนไทยทำในอดีตออกมาให้ชาวโลกรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีไทยให้ได้ หลังจากนักการเมืองและนักทำนายดวงได้เริ่มว่าจ้าง กทม ขุดพื้นใต้ตึกทำเนียบฯ ไปได้สัก 3,000 เมตร นักขุดเจาะตัวกลั่นก็ยังไม่ค้นพบเศษซากอะไรนอกจากคราบน้ำลายใต้ตึก นักการเมืองและหมอดูเริ่มปรึกษาหารือกันในทำเนียบอย่างเคร่งเครียด หลังจากนั้น 3-4 ชั่วโมง ก็ออกมาประกาศผ่านวิทยุกรมประชาสัมพันธ์และ โทรทัศน์รวมกันกินเฉพาะกิจว่า ชาวไทยก็มีเทคโนโลยีก้าวหน้าไม่น้อยกว่าชาติใดๆ หลังจากเราขุดไม่พบสิ่งใดๆที่ลึกลงไปกว่าสามพันเมตรเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ชาติไทยมีการใช้เทคโนโลยี wireless และการสื่อสารผ่านดาวเทียมมากว่าสามพันปีเป็นอย่างต่ำ สมควรที่เราจะภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ผมและเธอบนทางเส้นขนาน

- ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว ผูกอย่างไรก็มีปม
-
เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่

-
ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย GSM
-
เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย GSM ใช้

-
ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า จะยี่ห้ออะไรก็ปิดไอ้นั่นได้มิดเหมือนกัน
-
เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย ถ้าเกิดไฟไหม้กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ

-
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่ผมว่าขนมครก อร่อยและถูกกว่าเป็นไหน ๆ
-
เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่เธอชอบกินพิซซ่าด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อย แต่พิซซ่าฮัททุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน

-
ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้ และมันมักจะหายไปทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
-
เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้ และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ

-
ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัดกับระบบ
-
บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน เพราะงานทำให้เธอมีระบบ ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต

-
ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
-
เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าไม่มีพวกเขา ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง

-
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร ทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
-
คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร คลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง

-
ผมบอกว่าถ้าไม่มี "ความว่าง" แล้ว "ความมี" ก็ไร้ความหมาย เพราะความมี ต้องวางลงบนความว่าง
-
เธอบอกว่าถ้าไม่มี "ความมี" แล้ว "ความว่าง" จะมีประโยชน์อะไร มันคงไร้ความหมาย เพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบ

-
คนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 0-100 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 100-0
-
ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่ ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไปจะเหลือเพียง 0
-
เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100 แต่เป็น จาก 100-200 หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา

-
ผมมองคนที่ความคิด
-
เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย

-
ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
-
เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ

-
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
-
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ

เพราะเธอชอบกินไข่แดง แต่ผมชอบกินไข่ขาว เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม