วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ขนมครก

ควรซื้อขนมครกเป็นของขวัญวันแห่งความรัก (อ่าน แล้ว จะ ชอบ ขนมครกมากกว่า ขนม เค้ก)

 
ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ 
ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่ 
อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง 
ขยันขันแข็งเอางานเอาการ 
เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย 
ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ 
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง 
เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย 
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน
 
แม่แป้ง 
ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน 
นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง 
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ 
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด 
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป 
แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้ 
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง 
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย 
พร้อมอาวุธครบมือ ไอ้ทิไม่ว่ากระไร 
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอม 
กลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน 
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่ 
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน 
 
ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน 
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก 
ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี 
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้ 
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้ 
แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย 
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล 
เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์ 
ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า 
 
.... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม 
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ 
ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา 
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
 
ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง 
ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที 
อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ
อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 
นายของผู้ใหญ่ปลั่งรีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ 
เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น
 
.... รุ่งเช้า
 
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล 
ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน 
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข 
เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา 
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้ 
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า 
อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย 
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
 
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี 
 
ทุกแรมหกค่ำเดือนหก 
ชาวบ้านที่ศัรทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด 
เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน 
ปรุงจากแป้งและกะทิ 
บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน 
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอ ดไป 
 
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก 

(ขนมของ "คนรักกัน" )
 
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."
 

ขำขันยามเย็น

ผู้ใหญ่หาผัวใหม่....ให้สะใภ้ได้ใช้งาน
ผัวเก่าเราหัวล้าน....เขกกบาลแล้วเจ็บมือ
บ้าใบลงเรือใบ....ดูน้ำใสและสะดือ
สิ่งใดอยู่บนขื่อ....ก็กระสือเรืองแสงเอย

อันรักแท้ มิใช่ แค่ได้รัก
ยังมีพราก มีร้างลา น้ำตาไหล
แต่รักหนื่ง แน่นอน ไม่คลอนคลาย
คือ...รักแร้ ของหนูไง ให้กลิ่น...เดียว

ม.เมียนั้นหายาก
ต้องลำบากไปจีบมา
ฝ่าตะพดของพ่อตา
อีกคำด่าของแม่ยาย
สินสอดและทองหมั้น
เงินทั้งนั้นที่เสียไป
ห้าทุ่มรีบดับไฟ
คืนกำไรให้ตัวเอง

เกรด A นั้นหายาก
ต้องลำบากจดโพยไป
นั่งลอกบานตะไท
ใช้ทั้งหมึกเปลืองปากกา
ต้องเก็บวางให้ไว
ซ่อนเอาไว้ที่ลับตา
เก็บไม่มิด F ลอยมา
โอ้เธอจ๋าจำจงดี

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดหายไปสักสลึง
มีน้อยไปเป็นกรรมควรคำนึง
สามสลึงต้องอยู่ที่ศรีธัญญา

เมื่อคืนฝันสยองตีสองกว่า
ฝันไปว่านอนซบกับศพผี
นอนขึ้นอืดค้างตายมาหลายปี
เหมือนปิศาจอเวจีที่น่ากลัว
เหม็นซากศพ อบอวลไปทั่วห้อง
ไม่กล้ามองต้องคู้คด นอนหดหัว
ตกใจตื่นขนลุกซู่ ดูรอบตัว
เห็นชัวร์ ๆ เมียนอนตด สลดใจ

พอหน้าท้อง ของแม่ เริ่มป่องออก
พ่อก็บอก อยากให้ลูก เป็นดอกเตอร์
ย่าก็อยาก ให้หลานเป็น นายอำเภอ
แต่ต้องเก้อ หมอบอกแม่ แค่ลงพุง

คนอะไรไม่รู้ดูสวยเริ่ด
เทพธิดามาเกิดเชียวหรือนี่
อกเอวองค์สามส่วนล้วนเข้าที
งามอย่างนี้ใครได้เห็นเป็นต้องตา
ดวงเนตรคมผมสลวยรวยรอยยิ้ม
ปากเอิบอิ่มรูปกระจับรับใบหน้า
อยากจีบเธอเป็นคู่ชมสมอุรา
พอรู้ว่าเธอเป็นตุ๊ดสุดเศร้าใจ

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2550

มุมมอง

วันนี้อ่านหนังสือเล่มนึง อ่านแร้ว...สบายใจจัง
เอาเรื่องนึงมาให้อ่านเล่นๆๆนะ ว่าแต่..ทนอ่านหน่อยนะ
มันยาวหน่อย แต่เราอ่านแล้วยิ้มเลย

มีพระอยู่องค์หนึ่งท่านอยู่ที่วัดแร้นแค้นมากๆๆ
ท่านต้องสร้างวัดเอง จึงเริ่มก่อกำแพง
ทั้งๆๆที่ท่านมะเคยทำเลยในชีวิต
การก่อกำแพงที่คุณมองว่า แค่เอาอิฐวางเอาปูนใส่นั้น
แท้จริงแล้ว มันยากนะ เพราะว่าจะทำยังไงให้มันตรง
เท่ากันหมด พอพระท่านก่อกำแพงเสด ท่านเห๊นว่า
ตรงกลางของกำแพง มีอิฐอยู่ 2 ก้อนที่มันมะตรง
มันนูนออกมาจากอิฐก้อนอื่น ครั้นจะรื้อก้อมะได้
เพราะค่าใช้จ่ายมันแพง ทุกครั้งที่ญาติโยมมาที่วัด
อาตมาจะรู้สึกอับอาย มากเวลามีคนจ้องไปที่อิฐสองก้อนนั้น
จนกระทั่งวันนึง มีผู้ชายแก่คนนึงมาที่วัด แล้วมองไป
ที่กำแพงอันนี้ ชายแก่พูดว่า..กำแพงนี้สวยดี
อาตมาถามเค้าด้วยความตกใจว่า ลืมใส่แว่นมาเปล่า
คุณไม่เห๊นหรอว่ามันมีอิฐสองก้อนที่วางไม่ดีจนกำแพงนี้
ดูไม่ดี คำพูดที่ชายแก่ตอบอาตมามานั้น ได้เปลี่ยนแปลง
ทัศนคติทั้งหมดของอาตมาชายแก่บอกว่า...ใช่
ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก้อเห๊นด้วย
ว่ามีอิฐอีก 998 ก้อนก่อไว้ได้อย่างสวยงาม เปนระเบียบ
อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเปนครั้งแรกในรอบหลายๆๆปี
ที่อาตมามองเห๊นอิฐก้อนอ ื่นๆบนกำแพงนอกเหนือจาก
สองก้อนที่เปนปัญหา ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด
เดวนี้เมื่ออาตมามองเห็นอิฐดีๆๆแล้ว
กำแพงนี้สำหรับอาตมาก้อไม่น่าเกลียดอีกต่อไป
คนเราซักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์กะเพื่อน พี่ น้อง
เพียงเพราะเขาเพ่งมองแต่..อิฐที่ไม่ดีสองก้อนนั้น
ที่อยู่ในตัวคนอื่น ทั้งๆๆที่ในความเปนจริง มีทั้งอิฐที่ดี
และอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ เพียงแต่เรามองไม่เห๊นมันเท่านั้น
แทนที่จะเหนสิ่งดีๆๆที่มีอยู่ สายตาของเรากลับเพ่งมอง
จดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้ง
หลายหนเราได้ลงมือทำลาย กำแพงที่ดีลงไปจริงๆๆ

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สุรา

สุรา รสชาติคล้ายกันทั้งโลก
คุณสมบัติก็ เหมือนกัน คือ กินแล้วเมาเหมือนกันหมด
คนที่ดื่มสุรามากๆ มักจะมีคอแข็ง แกร่งประดุจเหล็กไหล
เวลาตายไปตกนรก โดนยมบาลเอาน้ำร้อนกรอกปากก็ไม่สะทก สะท้าน
เนื่องจากตอนเป็นคนเตรียมการมาดี ผมขอเสนอว่า
นรกขุมนี้ควร
เปลี่ยนวิธีการลงโทษ เป็นแบบใหม่
การสังสรรค์ในหมู่ชายฉกรรจ์ ถ้าขาด สุราไป
ก็คล้ายกับการสั่งเกาเหลาไม่เอาน้ำ การสนทนาในวงเหล้า
จะทวีความ มันส์ เมื่อสุราเริ่มทยอยเข้าปากไป
ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็จะสนิทดั่ง ญาติมิตรชนิดตายแทนกันได้
การพูดจาก็จะดังระงมคล้ายมีไมค์มาจ่อปาก
และ อาการทั้งหมดจะสงบลง เมื่อบิลเก็บตังค์มา
การดื่มสุราเอาสนุก บางทีก็ไม่จำ เป็นต้องเมา
โดยเฉพาะผู้ชาย ยามเมาแล้วไม่ค่อยน่าคบ
เพราะมักมีวิญญาณ โผน กิ่งเพชร เข้าสิง
อยากบู๊ท่าเดียว พวกนี้อันตราย
ส่วนรายไหนเมาแล้ว ใจป้ำ ควักตังค์จ่ายเป็นระวิง อันนี้ท่านว่า น่าคบ
ผู้หญิงก็คน ใช่ว่าจะเมา ไม่เป็น พอเมาถึงจุด
จะมีคำพูดประจำว่า "ชั้นไม่มาว แต่ไม่เหมือนเดิม
" ส่วนคำพูดแรกหลังจากถูกจีบ คือ "นายมารถอะไร"
การดื่มสุราในงานวันเกิด เจ้า ภาพจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ
จะตดจะเรอก็ไม่มีใครว่า พูดจาอะไรก็ถูกก็ดีไป หมด
แต่คนเป็นเจ้าภาพมักไม่ค่อยสนุก เพราะต่างรู้ชะตากรรมว่า
มื้อนี้กู แน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดื่มสุรา ก็คือการชนแก้ว
อันนี้ไม่เหมาะกับ พวกมือตีนหนัก แก้วอาจร้าวบาดปากได้
การชนแก้วอย่างถูกวิธี อาจทำให้คุณได้ เบอร์สาวโต๊ะข้างๆ
สูตรต่างๆ ในการมิกซ์สุรา
4-4-2 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเฉพาะของเฟอร์กี้ หลังปึ้ก
กลางเปรี๊ยะ หน้าหวดเพี้ย เหมาะ สำหรับท่านที่ดื่มเรื่อยๆ
หวังเก็บแต้มเสมอนอกบ้าน
4-3-3 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเด็ดของแวนเกอร์ หลังขาด กลางขึง
หน้าตะบึง เหมาะสำหรับท่านที่ ดื่มเอามันส์ หวังเก็บสามแต้มเต็ม
3-5-2 ( โซดา-โค้ก-สุรา ) เป็นสูตรลับของ ราฟาเอล หลังเสียบ กลางซ่า
หน้าซิ่ง เหมาะสำหรับสตรีและกระเทย
4-4-2 defense ( น้ำแดง-เหล้าขาว-ลิโพ ) อันนี้โค้ชหรั่ง ช้อบชอบ
ทานง่าย ประหยัดงบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยๆ
สุรา มีชื่อสามัญว่า เหล้า คำว่า สุรา อาจจะมา จาก สุระ ที่แปลว่า
ยิ่งใหญ่
เพราะเห็นใครๆสุราเข้าปากไป มักจะยิ่งใหญ่คับ โต๊ะเกินกว่าบุคคลธรรมดา
ร่างกายของคนเรา ทางพระเรียกว่า
อินทรีย์ธาตุ
รับความรู้สึกผ่านทางทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
โดยมีประสาท เป็นผู้สั่งการ สิ่งที่เรารับเข้าทางทวารทั้งห้า
ทางพระเรียกว่า ทุกขัง คือ สภาพจริงที่ทนได้ยาก
การดื่มสุราเข้าไปมากๆ จะทำให้ประสาทสั่งการได้ช้า ลง
เพราะสุรามีฤทธิ์กดประสาท ส่งผลให้ทวารทั้งห้าทำงานได้ช้าลงไปด้วย
คนเราก็รับทุกขังได้น้อยลง เมื่อคนเราขาดทุกขัง
ก็เหมือนขาดสภาพจริงที่ทนได้ ยาก
เหลือแต่จิตเปล่าๆ เวลาสนุกก็สนุกสุดๆ ทุกข์ก็ทุกข์สุดๆ
รวมทั้ง โมโห โกรธ กล้า ก็จะมากกว่าคนในภาวะปกติ
โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการ สุรา ยังกล่าวไว้ว่า "ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา
แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำ สุรา"
เฮียฮ้อ อาร์เอส ก็ออกมาย้ำว่า "อย่าอุดหนุน สุราผี โซดาเถื่อน"
น้าหมัก ก็สนับสนุนว่า
"การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการจีบหญิงเพิ่มขึ้น"
ส่วนไอ้กระผม ก็ตั้งมั่นอยู่ในหลัก "เมาจัง ตังค์อยู่ครบ"
อันนี้ไม่ค่อยดีครับ ไม่ขอแนะนำ
เพราะท่านอาจถูกบอยคอตจาก องค์การสหสุราชาติได้
หลายคนถก เถียงกันว่า สุราอะไรอร่อยที่สุด ชีวาส แบล็กเลเบิล หรือว่า
สวิง
ผมขอตอบ ให้เลยครับว่า เหล้าฟรีอร่อยที่สุด
ท่านทั้งหลายต่างก็รู้กันอยู่ว่า หลัง ดื่มจะต้องเมา
ก็ขอให้เตือนใจไว้เสมอว่า เมาไม่ขับ กับ ต้องใส่ถุง แล้วท่าน
จะไม่ตายเพราะการดื่ม
อันความคิดก๊อกก๊อกของผมคิดว่า ทำปัจจุบันขณะเมาให้ดี ที่สุด
ก็พอแล้ว เพราะการดื่มสุรา ก็แค่การยกน้ำขมๆผสมโซดาเข้าปากไป
แล้วคุณจะหวังอะไรให้มากกว่านั้น

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ใครว่าต้วมเตี้ยมเป็นหมาขี้เรื้อน

งานเจดีย์

เลี้ยงส่งเบิ้ม

XXX

น้องจอยเป็นเด็กเรียบร้อยจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กับน้าชายเพื่อมาเรียนหนังสือทุกคนคิดว่าทั้งคู่เป็น

น้าหลานกันธรรมดาจนกระทั่งวันหนึ่ง
น้องจอยพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
"น้าถอดเสื้อของจอยได้ไหม"
น้าชายก็ถอดเสื้อของน้องจอยออกอย่างว่าง่าย
"น้าถอดกางเกงจอยด้วย"
น้าชายรีบถอดกางเกงหลานสาวโดยทันที
น้องจอยพูดด้วยอาการอายต่อไปว่า
"ยกทรงหนูด้วย"
น้าชายปลดตะขอยกทรงน้องจอยออก

จากนั้นน้องจอยก็พูดด้วยอาการหน้าแดงว่า
"กางเกงในหนูก็ถอดด้วยสิ"

น้าชายถอดเสื้อผ้าของน้องจอยออกหมดจากนั้นน้องจอยก็กล่าวว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.


"คราวหน้าน้าอย่ามาเอาเสื้อผ้าของจอยไปใส่อีกนะ"
.
.
.
ใครคิดลามกเขกหัว 1 ที 5 5 5

พ-อ-อ่-า-น-เ-รื่-อ-ง-นี้-จ-บ- นํ้า-ต-า-ผ-ม-ก็-ไ-ห-ล

น้องนกเป็นเด็กน่ารัก มีอยู่วันนึงขณะที่นั่งทำการบ้าน
ก็มีเสียงกริ่งดัง ขึ้น
น้องนกก็รีบไปเปิดประตู
เห็นผู้ชายหน้าตา ดีคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู
ขณะที่ยืนสงสัยอยู่นั้น แม่ก็เดิน ออกมาจากครัว
ยิ้มให้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "มา แล้วเหรอ"
จากนั้นหันมาพูดกับน้องนกว่า "เรียก พ่อสิ"
น้องนกยืนอึ้ง และถามตัวเองว่า ชายคนนี้เป็นใคร?
ทำไมแม่บอกให้เรียกพ่อ? หรือว่า
แม่เห็นน้องนกยืนนิ่ง ก็บอกซํ้าว่า "เรียกพ่อสิ"
น้องนกก็ ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม จนแม่ต้องเอ็ดซํ้า "เรียกพ่อเร็ว สิ"
เมื่อเห็นน้องนกยังนิ่งเฉย
คราวนี้ จึงโดนแม่ฟาดด้วยฝ่ามือพร้อมกับเอ็ดว่า
"ใบ้กินรึไง? เรียกพ่อ สิ"
น้องนกยืนนํ้าตาไหล
นึกไม่ถึงว่าจะถูกแม่ ตีเพราะคนแปลกหน้า
พร้อมกับพูดอย่างไม่เต็มเสียงว่า " พะ พะ พ่อ"
จากนั้น แม่ก็ส่ายหัวพร้อมกับเอ็ดน้องนกด้วยความโมโหว่า
"พ่อแกอยู่ในห้อง เรียกยังงี้จะได้ยินได้ไง รีบไปเรียกเร็ว ช่างเค้าจะไปซ่อมแอร์ที่อื่นอีก"

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2550

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม