วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สวัสดีปีใหม่

ก็ใกล้จะวันขึ้นปีใหม่แล้ว ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปอย่างง่ายดาย พอดีเป็นคนเขียนไม่ค่อยเก่ง ขออวยพรสั้นๆ แระกันนะ (5555)


1. ขอให้สำลักความสุข
ขอให้ทุกข์กระเด็น
ขอให้เห็นรอยยิ้ม
ขอให้อิ่มความรัก
ขอให้หนักเงินทอง
ขอให้มองฟ้าสวย
ขอให้รวยความฝัน
ขอให้มั่นความดี
ขอให้มีแรงใจ
ในปีใหม่ นี้เทอญ


2. ขอให้หน้ามีตีนกา.....ด้วยเหตุว่ายิ้มทุกวัน
ขอให้เธอตัวดำ......ด้วยไฟฝันที่มาครอก
ขอให้เธอถูกหลอก....แบบหยอกๆด้วยความรัก
ขอให้เธอถูกลัก......พาความเศร้าไปจากใจ

ขอให้เธอจนๆ...จนความทุกข์รวยสุขใจ
ขอให้เธอจากไป...จากเรื่องร้าย สู่เรื่องดี
ขอให้เธอถูกจี้.....จี้ให้ขำ ทำเบิกบาน
ขอให้เป็นดีซ่าน...ความดีแผ่ซ่าน สำราญจิตใจ


3. ปีใหม่ ให้ใจอิ่มสุข
ปีใหม่ คลายทุกข์คลายโศก
ปีใหม่ ยิ้มให้กันทั้งโลก
ปีใหม่ รักโชกชุ่มใจ

ส่งรัก ส่งยิ้ม ส่งไมตรี
ส่งความปราถนาดีมอบให้
ส่งมอบความสุขด้วยใจ
เบิกบานสดใสทั่วกัน

ขอให้ หมดหม่น หมดหมอง
มีเงิน มีทอง มีฝัน
สุขได้ ยิ้มได้ ทุกวัน
แบ่งปัน รักกัน ตลอดไป


ปล. ยืมคำอวยพรเค้ามาครับ

แต่ก็มอบให้ด้วยความจริงใจ

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

WinXP : Easter Eggs - bush hid the facts

เปิด Notepad ขึ้นมาแล้วพิมพ์คำว่า bush hid the facts แล้วบันทึกไฟล์ ลองเปิดไฟล์นี้ขึ้นมาอีกครั้งแล้วจะพบว่า มันอ่านไม่ออก

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประกาศ ขายบัตรคอนเสริต์ อัสนี - วสันต์ แสดง (19/12/51) อิมแพค ด่วน

ได้บัตรมาจากไทยพาณิชย์ คิดว่าไม่มีเวลาไปแน่ๆ อยู่ตั้งอิมแพค วันศุกร์ที่ 19/12/51 แสดงเวลา 19.00 เลิกงานก็ 18.00 รถติด + กว่าจะถึงงานเลิกพอดี ใครมีกำลังทรัพย์ + เวลาติดต่อได้เด้อ

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ขำขำ

คุณซูเหนาะ คุณซูเลิ๋ม กับซูเธพ (นามสมมุติไม่ได้เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น)
กำลังเดินทางกลับกรุงเทพด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน
คุณซูเหนาะนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองลงไปเบื้องล่างแล้วจึงกล่าวขึ้นว่า
"รู้ไหมว่าตอนนี้ผมคิดจะทำอะไร ผมอยากจะโยนแบ๊งค์ 1000
ลงไปหนึ่งใบเพื่อจะทำให้คนข้างล่าง สักคนมีความสุข"

คุณซูเลิ๋มได้ฟังดันนั้นก็ไม่ยอมแพ้ มองลงไปข้างล่างแล้วกล่าว
"โอ๊ย ถ้าเป็นผมนะ ผมจะโยนแบ๊งค์ 500 ลงไปสองใบ
ผมก็จะทำให้คนข้างล่างสองคนมีความสุข ได้"
"แต่ผมว่านะ ถ้าเป็นผม ผมจะโยนแบ๊งค์ 10 บาทลงไป 100 ใบ
คงจะทำให้คนไทย 100 คน มีความสุขขึ้นได้บ้าง"

คุณซูเธพรีบเสริมทันควัน แบบกลัวน้อยหน้า
"ขอโทษนะครับถ้าผมจะเสริมอะไรบ้าง"
เสียงมาจากข้างหน้า บริเวณที่นั่งนักบิน
"ถ้ากูโยน...สามคนลงไปข้างล่างนั่น
คนไทย 70 ล้านคนคงมีความสุขขึ้นทันตาเห็นเลย"

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

โจร .. เพื่อน.. สุภาษิตไทย

"คบคนพาล..คนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต..บัณฑิตพาไปหาผล"
ถึงคราที่สุภาษิตไทยต้องเปลี่ยนใหม่แร้ว
เพราะว่า BANDIT (บัณฑิต) แปลว่า โจร
ส่วนคน PAL (พาล) แปลว่า เพื่อน

"คบคนพาล..คนพาลพาไปหาเพื่อนสนิท..คบบัณฑิต..บัณฑิตพาไปหาโจร"

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำว่า ฉันรักเธอ ของแต่ละประเทศ

ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิเบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t'aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)

ไทย เรียกว่า ฉัน รัก คุณ (chun ruk khun)

นิทานเรื่อง " กบ ฟุ้งซ่าน...ข้างกำแพงวัด"

กบ ฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมา
ถึงวัดเพื่อฉันเช้า...
กบมันนึกในใจ อยากเกิดเป็นพระ เป็น พระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน ..
เมื่อพระฉันเสร็จ ก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
..

ตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นเด็กวัด แล้ว เพราะสบายกว่าพระ
มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้ สบายกว่าเยอะเลย...
เมื่อเด็กวัดกินเสร็จ ก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกินแล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกัน
ล้างจาน...
ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นหมาวัด แล้ว เพราะไม่ต้องล้างจาน เหมือนเด็กวัด สบายกว่า
...
พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด คอยเห่าคนแปลกหน้า...
ฝูงแมลงวันก็บินมาตอมและกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด
ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ(อีกแล้ว) อยากเกิดเป็นแมลงวัน เพราะสบายที่สุดไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำยัง
มีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย...
ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวัน
เข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ ..

ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่าน จึงบรรลุธรรมฉับพลัน (Sudden knowledge)

คิดได้ว่า เอ้ อ เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดเลย (The best to be yourself)

จงเชื่อมั่นในตัวเอง (Be yourself)

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Nvidia Driver

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

106 window shortcut

Access these tools with: Windows+R, and type the name. (Bold)

Maybe if you learn more and more, it very useful.

1. Accessibility Controls - access.cpl
2. Accessibility Wizard - accwiz
3. Add Hardware Wizard - hdwwiz.cpl
4. Add/Remove Programs - appwiz.cpl (*)
5. Administrative Tools - control admintools
6. Automatic Updates - wuaucpl.cpl
7. Bluetooth Transfer Wizard - fsquirt
8. Calculator - calc (*)
9. Certificate Manager - certmgr.msc
10. Character Map - charmap (*)
11. Check Disk Utility - chkdsk (*)
12. Clipboard Viewer - clipbrd
13. Command Prompt - cmd (*)
14. Component Services - dcomcnfg
15. Computer Management - compmgmt.msc
16. Control Panel - control
17. Date and Time Properties - timedate.cpl
18. DDE Shares - ddeshare
19. Device Manager - devmgmt.msc
20. Direct X Troubleshooter - dxdiag (*)
21. Disk Cleanup Utility - cleanmgr
22. Disk Defragment - dfrg.msc
23. Disk Management - diskmgmt.msc
24. Disk Partition Manager - diskpart
25. Display Properties - control desktop
26. Display Properties - desk.cpl
27. Dr. Watson System Troubleshooting Utility - drwtsn32
28. Driver Verifier Utility - verifier
29. Event Viewer - eventvwr.msc
30. Files and Settings Transfer Tool - migwiz
31. File Signature Verification Tool - sigverif
32. Findfast - findfast.cpl
33. Firefox - firefox (*)
34. Folders Properties - control folders
35. Fonts - control fonts
36. Fonts Folder - fonts (*)
37. Free Cell Card Game - freecell
38. Game Controllers - joy.cpl
39. Group Policy Editor (for xp professional) - gpedit.msc (*)
40. Hearts Card Game - mshearts
41. Help and Support - helpctr
42. HyperTerminal - hypertrm
43. Iexpress Wizard - iexpress
44. Indexing Service - ciadv.msc
45. Internet Connection Wizard - icwconn1
46. Internet Explorer - iexplore
47. Internet Properties - inetcpl.cpl
48. Keyboard Properties - control keyboard
49. Local Security Settings - secpol.msc
50. Local Users and Groups - lusrmgr.msc
51. Logs You Out Of Windows - logoff
52. Malicious Software Removal Tool - mrt
53. Microsoft Chat - winchat
54. Microsoft Movie Maker - moviemk
55. Microsoft Paint - mspaint
56. Microsoft Syncronization Tool - mobsync
57. Minesweeper Game - winmine
58. Mouse Properties - control mouse
59. Mouse Properties - main.cpl
60. Netmeeting - conf
61. Network Connections - control netconnections
62. Network Connections - ncpa.cpl
63. Network Setup Wizard - netsetup.cpl
64. Notepad - notepad (*)
65. Object Packager - packager
66. ODBC Data Source Administrator - odbccp32.cpl
67. On Screen Keyboard - osk
68. Outlook Express - msimn
69. Paint - pbrush (*)
70. Password Properties - password.cpl
71. Performance Monitor - perfmon.msc
72. Performance Monitor - perfmon
73. Phone and Modem Options - telephon.cpl
74. Phone Dialer - dialer
75. Pinball Game - pinball
76. Power Configuration - powercfg.cpl
77. Printers and Faxes - control printers
78. Printers Folder - printers
79. Regional Settings - intl.cpl
80. Registry Editor - regedit (*)
81. Registry Editor - regedit32 (*)
82. Remote Access Phonebook - rasphone
83. Remote Desktop - mstsc (*)
84. Removable Storage - ntmsmgr.msc
85. Removable Storage Operator Requests - ntmsoprq.msc
86. Resultant Set of Policy (for xp professional) - rsop.msc
87. Scanners and Cameras - sticpl.cpl
88. Scheduled Tasks - control schedtasks
89. Security Center - wscui.cpl
90. Services - services.msc (*)
91. Shared Folders - fsmgmt.msc
92. Shuts Down Windows - shutdown (*)
93. Sounds and Audio - mmsys.cpl
94. Spider Solitare Card Game - spider
95. SQL Client Configuration - cliconfg
96. System Configuration Editor - sysedit
97. System Configuration Utility - msconfig (*)
98. System Information - msinfo32
99. System Properties - sysdm.cpl
100. Task Manager - taskmgr
101. TCP Tester - tcptest
102. Telnet Client - telnet (*)
103. User Account Management - nusrmgr.cpl
104. Utility Manager - utilman
105. Windows Address Book - wab
106. Windows Address Book Import Utility - wabmig
107. Windows Explorer - explorer (*)
108. Windows Firewall - firewall.cpl
109. Windows Magnifier - magnify
110. Windows Management Infrastructure - wmimgmt.msc
111. Windows Media Player - wmplayer
112. Windows Messenger - msmsgs
113. Windows System Security Tool - syskey
114. Windows Update Launches - wupdmgr
115. Windows Version - winver
116. Wordpad - write (*)

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

NULL (SQL)

NULLIF ใช้กำหนดค่าให้เป็น NULL ถ้าตรงกับเงื่อนไขครับ ไม่ใช่ทำให้ไม่เป็น NULL

เช่น
NULLIF(Price = 0) -- ถ้าราคาเป็นศูนย์ให้เป็น NULL
NULLIF(MinValue < 0) -- ถ้า MinValue เป็นน้อยกว่าศูนย์ให้เป็น NULL


แต่ถ้าต้องการให้ค่าที่ NULL เปลี่ยนเป็นค่าที่เราต้องการลองอย่างนี้สิครับ

ใช้ CASE
ตัวอย่าง SELECT (CASE WHEN PRICE IS NULL THEN 0.00 ELSE PRICE END) AS PRICE FROM GOODS

ใช้ IIF
ตัวอย่าง SELECT IIF(PRICE IS NULL, 0.00, PRICE) AS PRICE FROM GOODS

ใช้ COALESCE อันนี้ตรง ๆ
ตัวอย่าง
COALESCE(Price, 0.00) -- ถ้าราคาเป็น NULL ให้เป็นศูนย์
COALESCE(Price1, Price2) -- ถ้า Price1 เป็น NULL ให้ใช้ค่าใน Price2 แทน
COALESCE(Price1, Price2, Price3, ...) -- ถ้า Price1 เป็น NULL ให้ใช้ค่าใน Price2 แทน ถ้า Price2 เป็น NULL ให้ใช้ Price3 แทน ...

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทำไมไม่ใช้ Linux อะ

ที่มา

  1. Blue Screen of Death Strikes Bird's Nest During Opening Ceremonies Torch Lighting
  2. เหตุผลจีนควรเลือกใช้ระบบปฎิบัติการที่ดีกว่านี้ในพิธีเปิดโอลิมปิกของจีน







คนไทย สบายๆๆ

ได้ยินจากคำบอกเล่า เรื่องจริงไม่อิงนิยาย ว่าคนที่เคยไปเที่ยวสิงคโปร์ ก่อนไปเขาก็ได้ยินว่า บ้านเมืองสิงคโปร์ค่อนข้างจะรักษาความสะอาด มีระเบียบวินัย เวลาข้ามถนนก็จะข้ามทางม้าลาย บังเอิญนั่ง Taxi กลับโรงแรม เห็นคนเดินข้ามถนน บริเวณที่ไม่ใช่ทางม้าลาย ก็สงสัย เลยถาม Taxi

นักท่องเที่ยว : "คนสิงคโปร์มีระเบียบวินัยไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ข้ามทางม้าลายล่ะ"
Taxi : "อ๋อ... คนไทยน่ะ.... ไม่ใช่สิงคโปร์หรอก"
นักท่องเที่ยว : "แป่ว!!??! ...."
Taxi : "แล้ว you คนชาติไหนล่ะ"
นักท่องเที่ยว (ไทย) : "เอ่อ ... อินโดนีเซียอ่ะ ... "

... นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงวัฒนธรรมคนไทย ที่เพื่อนบ้านรู้จักกันดี ...
^_^

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เรื่องบางอย่างมันอธิบายไม่ได้

บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้

คุณว่าจริงใหม? บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้

ชายคน(เป็นชาวนา)หนึ่งนั่งหน้าบูด ตาเขียวปูดอยู่ในบาร์ (เมืองนอก ชาวนา มานั่งดื่มในบาร์ได้ ต้องรวยละน่า)

พอดีมีคนรู้จักแวะเข้ามาเห็นจึงทักทายอย่างเป็น ห่วงว่า

'เฮ้ ทำไมมานั่งเหงาอยู่คนเดียวล่ะ มีเรื่องอะไรเหรอ'

ชาวนาส่ายหน้าแล้วตอบว่า

'บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้'

..

'มีเรื่องอะไรนักหนา เล่าให้ผมฟังสิ' ชายมาใหม่ นั่งลงใกล้ๆ

'เมื่อเช้าผมนั่งรีดนมวัวอยู่ดีๆ พอนมวัวใกล้เต็มถัง

ไม่รู้วัวมันเป็นอะไรขึ้นมา มันยกเท้าซ้ายเตะถังล้มคว่ำหมด'

'เอ ฟังดูก้อไม่น่ามีอะไรมานี่นา'

'บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้' ชาวนาตอบ



'ถ้างั้น เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ'

'ผมก้อเลยมัดขาซ้ายมันไว้ กับเสาด้านซ้าย แล้วผมก้อรีดนมมันต่อ

พอใกล้จะเต็มถัง มันก้อ ยกเท้าขวาเตะถังล้มลงอีก'

'อีกแล้วเรอะ' ชายที่ได้ฟังหัวเราะ

'แล้วคุณทำไงต่อล่ะ'



'บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้' ชาวนาตอบ ก่อนที่จะเล่าต่อ

'ผมก้อเลยมัดขาขวามันไว้กับเสาด้านขวา'

'แล้วหลังจากนั้นล่ะ'

'ผมก้อรีดนมมันต่อ พอใกล้เต็มถังอีก

' มันก้อใช้หางปัดถังล้มลง'

'ฮืม...' ชายผู้นั้นพยักหน้า หงึกๆ



'บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้' ชาวนาบอกอีก


'แล้วคุณทำไงต่อล่ะ'

'ผมหาเชือกไม่ได้ เพราะใช้หมดไปแล้ว ผมก้อเลยถอดเข็มขัดออก

แล้วคล้องหางมันไว้กับคาน

นาทีนั้นเอง กางเกงผมก้อหลุดลงกองกับพื้น
แล้วเมียผมก้อเดินเข้ามาพอดี
....
...
..
.

คุณว่ามั๊ย บางครั้งบางเรื่องก้อไม่อาจอธิบายได้'

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทำไมต้อง เซ็งเป็ด?

เรื่องมันมีอยู่ว่า หมา หมู และเป็ด เป็นเพื่อนกันมาช้านาน

วันหนึ่งหมูนัดหมาไปกินเหล้าที่ผับแห่งหนึ่ง

พอหมามาถึงเห็นหมูนั่งอยู่ตัวเดียวก็สงสัยทำไมเป็ดไม่มาด้วยจึงถาม



หมา "เฮ้ย ไอ้หมู ทำไมไอ้เป็ดถึงยังไม่มาวะ"
หมู "ข้าไม่ได้ชวนมันว่ะ"

หมา "เอ็งทำอย่างนี้ไม่ดีนา มากันแค่เราสองตัว เดี๋ยวไอ้เป็ดรู้มันเสียใจแย่"
หมู "เสียใจก็ช่างมัน เพราะข้าตั้งใจจะเลิกคบมันอยู่แล้ว"
หมา "อ้าวทำไมล่ะแก เพื่อนกันใจเย็นๆก่อนดีกว่า ไหนเล่ามาซิมีเรื่องอะไรกะไอ้เป็ดมันวะ"
หมู "วันก่อนข้าชวนมันไปกินเหล้า พอมาถึงร้านเหล้าข้ายังไม่ทันได้กินเหล้าเลย มันก็พูดขึ้นว่า กับ กับ กับๆๆๆๆๆๆ ไปไหนไม่ทันได้ทำอะไร มันชวนกลับลูกเดียว เซ็งว่ะ"

ก็เลยเป็นที่มาของ "เซ็งเป็ด!"

ความฝันของผู้ชายหลายๆ คน

1. มีผู้หญิงสักคนที่คอยดูแลความเรียบร้อยและทำความสะอาดบ้าน
2. มีผู้หญิงสักคนที่ทำให้เราหัวเราะ
3. มีผู้หญิงสักคนที่เราสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง และพร้อมจะเป็นผู้รับฟังยามที่เรามีปัญหา
4. มีผู้หญิงสักคนที่เก่งเรื่องบนเตียง และอยากอยู่กับเราตลอดไป
5. และผู้หญิงทั้ง 4 คนไม่รู้จักกัน

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เอาหนูปะ

ขำขำ


ในยุคปัจจุบันนี้ ความคิดของเด็กไทยต่างเปลี่ยนไป เห็นแล้วก็อึ่งกิมกี่เลยครับ ลองมาดูกันครับ
ในหัวค่ำวันหนึ่งในเมืองหลวงรถลาติดขัด ผมขับรถผ่านความวุ่นวายมาจนถึงถนนย่านชานเมืองเส้นหนึ่ง
เป็นสายรองรถเริ่มน้อยบางตาลงผิดกลับเมื่อตอนแรก ในขณะที่จอดติดไฟแดงอยู่ คิดอะไรเพลินๆ
สายตายก็ไปหยุดอยู่ที่กลุ่มเด็กสาวรุ่นราว 3-4 คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ สังเกตุจากหน้าตาไม่ธรรมดา แต่งตัวสวยสายเดี่ยวนุ่งสั้น
แต่ละคนเห็นแล้วอดมองเกลียวไม่ได้ ผมจองมองอยู่นาน มีเด็กคนหนึ่งในกลุ่มแยกตัววิ่งตรงมาที่รถผมแล้วส่งยิ้มหวานให้
เธอเคาะกระจกรถทำให้ผมตื่นจากอาการลืมตัว ผมลดกระจกลงครึ่งบาน
เด็กสาว: พี่ๆ พี่หล่อจัง
ผม:(เอาละว้าขาวอวบซะด้วยสเป็กเลย)คิดในในแต่ต้องเก็บอาการไว้
เด็กสาว:พี่สุดหล่อคะ........เอาหนูปะ........... 100 เดียวคะสะอาดด้วยหอมด้วยนะคะ(ยิ้มเขิล)
ผม: เฮ้ย..น้องตรงนี้เลยเหรอ.....(อยากอยู่)เก็บอาการอีก
เด็กสาว:..เอาปะคะ......................
ผม:( 100 เดียวเอาดิ)..จะดีเหรอน้อง(ทำหน้าเคลียดไว้ฟรอมแต่ มือล้วงกระเป๋าเสื้อหนีบแบงค์ 100 ออกมาให้)
เด็กสาว:(พนมมือไหว้รับเงิน)พี่รอหนูแป๊ปนะหนูไปหนูเอาถุงก่อนคะ....(วิ่งอย่างเร็วกลับที่ลุ่ม 3-4 คนแล้วทุกคนมองมาที่ผมบางคนหัวเราะชอบใจ)
ผม:....เขิล
เด็กสาว:(วิ่งกลับมาพร้อมกลับยื่นถุงพลาสติกให้)...ขอบคุณนะคะพี่สุดหล่อ...(วิ่งกลับในทันที)
ผม:อึ้ง............เปิดถุงดูมีหนูย่าง 3 ตัว
ตู.....................เซ็งเป็

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

Database : รวม 2 Table เป็น 1 Table

!!เขียนไว้กันลืม!!


วิธีรวม 2 Table หรือ หลาย Table เป็น 1 Table ก็ใช้ Union แหละ

และต้องมีชื่อของ Fields เท่ากันด้วยนะ

หัวใจมันคือ UNION

ตัวอย่าง

(SELECT gid AS ItemID , '- Group -' AS Domain , gname AS [Name] , valid
FROM dbo.tblUserGroup)

UNION

(SELECT uid AS ItemID , DomainName AS Domain , UserName AS [Name] , Valid
FROM dbo.tbluser)

ORDER BY Domain , [Name]


ผลลัพธ์



วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คอลัมภ์คำถามยอดนิยมทุกยุคทุกสมัย ' เสพสมบ่มิสม ... โดยหมอ นพพร '

( อายุต่ำกว่า 18 ห้ามอ่าน )


ถาม - คุณหมอค่ะ กรณีผู้หญิงขนเยอะจะเป็นอันตรายหรือป่าวค่ะ

ตอบ - เป็นครับ เป็นอันตรายต่อผู้หญิงและผู้ชายด้วยครับ

ถาม - คุณหมอค่ะ ช่วยยกตัวอย่างที่ว่าอันตรายได้ป่าวค่ะ จะได้ป้องกันค่ะ

ตอบ - เวลาดันขาจะเก็ง มือจะสั่น เหงื่อจะออกเยอะมาก ทำให้หมดแรงเมื่อดันเสร็จ และทำให้ฝ่ายชายดันลำบากด้วยครับ

ถาม - แล้วจะป้องกันได้อย่างไรค่ะ

ตอบ - ไม่ยากครับ ให้ผู้หญิงประคองอยู่ด้านหลัง ส่วนผู้ชายให้ดันอยู่ด้านหน้า

ถาม - คุณหมอพอจะมีภาพตัวอย่างเวลาขนเยอะ ๆ หรือป่าวค่ะ

ตอบ









วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เปลวสีเงิน:เมื่อพันธมิตรยกทัพขับ'หุ่นไล่กา'

2 มิถุนายน 2551 กองบรรณาธิการ

เสียใจ ด้วยครับ..นายสมัคร ภาวะผู้นำของท่านหมดเสียแล้ว ในขณะที่ฝ่ายมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย "สูญสิ้นความชอบธรรม" ที่จะชุมนุมต่อ

แต่ด้วยการสำเร็จความใคร่ทางปากเมื่อเช้าวันเสาร์และ อาทิตย์ วิวาทกรรมปะทะ "กลับกลอก" ของท่านนั้น เข้าสู่เงื่อนไขที่สมาชิก "พรรครัฐบาลทั้ง ๖ พรรค" ต้องพิจารณาด่วนแล้วว่า

สมควรจะให้คนที่มีอาการ "ป่วยทางจิต" เช่นนี้ เป็นผู้นำในการบริหารประเทศต่อไปหรือไม่?

ผม บอกได้คำเดียวว่า "อันตรายอย่างยิ่ง" ที่จะให้ผู้มีความสับสนทางจิตกระเดียดไปในทางเผด็จการ "อาชญากรอำนาจ" และ "ตกยุค" แล้วเช่นนี้ ดำรงฐานะผู้ควบคุมทิศทางต่อไป

ใน "หัวเลี้ยว-หัวต่อ" ของเส้นทางประเทศที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ "มิติโลกศตวรรษใหม่" ทั้งด้าน เศรษฐกิจ ชีวิต สังคม และความเป็นบุคลิกเอกลักษณ์แห่งความเป็นชาติ!

๖ พรรครัฐบาล ทั้งพลังประชาชนผู้เป็นพรรคแกน และพรรคร่วมคือ ชาติไทย เพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา มัชฌิมาธิปไตย ประชาราช ถึงจุดต้องปรึกษาหารือ และใคร่ครวญกัน "จริงจัง" แล้วว่า

จะเชิดนายสมัครไว้ เพียงเพื่ออาศัยเป็นเชื้อให้รัฐบาลดำรงอยู่ เพื่อตัวเองจะได้ร่วมเกาะอำนาจเปื่อยเน่าไปชั่วมื้อ-ชั่วคราว

หรือเราจะเอา "ทางยาว" ของความเป็นประเทศชาติไว้ ด้วยการกำจัดหัวหน้ารัฐบาลที่ส่อว่าพิการทางจิตนี้ออกไป?

เพื่อรักษาความพร้อมในทรัพยากรบนโอกาสของไทยที่ "คนทั้งโลก" มองเห็น แต่พวกเราคนไทยกันเองแหละที่ "มองไม่ค่อยเห็น"

ไม่อย่างนั้น แขกซาอุฯ แขกดูไบ จะขยายอาณาจักรเงินเข้ามาเลียบเคียง ทำนา ทำแลนด์บริดจ์ ต่างๆ นานา และทั้งซื้อที่ดินในประเทศไทยทำไม

ถ้าเขามองไม่เห็น "โอกาสทอง" จากแผ่นดินไทยกองอยู่ตรงหน้า?

ป่วยการ คิด ป่วยการพูด และเปล่าประโยชน์ที่จะเถียงกันว่า "ใครแพ้-ใครชนะ" ในเกมประชาธิปไตยกลางถนนครั้งนี้ เพราะจิตวิญญูชนตอบตัวเองได้แล้วว่า

ในอำนาจที่ไม่สร้างความชอบธรรม และไม่สร้างเสถียรภาพแห่งศรัทธาบนการแก้ปัญหาชาติ-ประชาชนให้ประจักษ์ จะมีหน้าอยู่ทำไม

ป่วยการอ้างเพิ่งมาเป็นรัฐบาล ๓ เดือน ๔ เดือนเพื่ออยู่!

ก็ แค่ ๓ เดือน ๔ เดือน ยังส่อว่าอนาคตประเทศชาติ และความเป็นอยู่ของประชาชนยังวิบัติขนาดนี้ แล้วขืนปล่อยให้นายกรัฐมนตรีคนนี้อยู่ถึง ๓ ปี ๔ ปี

กลียุคแผ่นดินจะไม่เกิดจากลิ้นเฒ่าเลี้ยงแกะคนนี้หรือ!?

คำ พูดนายกฯ คือคำสั่งทางกฎหมายอย่างหนึ่ง แต่พูดไปวันหนึ่ง รุ่งขึ้นมาตวัดลิ้นไปอีกอย่างหนึ่ง จะเป็นพูดด้านผิด-ด้านถูกอะไรก็เรื่องหนึ่ง แต่เมื่อพูดแล้ว "ไม่รับผิดชอบ" ในคำพูดนั้น

กลับแชเชือน สับปลับ เลื่อนเปื้อน ไปอีกทาง ซึ่งพฤติกรรมอย่างนั้น ไม่เพียงคนไทย แต่คนทั้งโลกที่รับทราบผ่านระบบสื่อสาร จะไม่เกิดเป็นทัศนคติ "มุมหยาม" ต่อประเทศไทยผ่าน "พฤติกรรมสับปลับ" ของคนเป็นผู้นำดอกหรือ?

ตอนนี้ สังคมโลกเขายิ่งประณามไทยผ่าน "คำมั่นสัญญา" ที่ไม่ค่อยจะรักษากันอยู่ด้วยว่า คนไทยกะล่อน พูดจาเชื่อถือไม่ได้

เห็น ชัดจากอดีตนายกฯ ทักษิณ ไปจับมือเซ็นสัญญากับอินโดฯ มาเลย์ ทำโอเปกยาง ห้ามใครขายก่อนที่จะได้ตกลงกัน ปรากฏว่า เซ็นปุ๊บ กลับมาปั๊บ รุ่งขึ้น ไทยเทยางขายหมดสต็อก รวยคนเดียวหน้าตาเฉย

เขาด่า (แม่) หมดความเชื่อถือมาจนถึงเดี๋ยวนี้!

แล้วนี่..มานายกฯ นอมินีทักษิณ พูดอะไรแต่ละครั้ง "ปลิ้น" เป็นไข่ไปได้ทุกองศา ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงด้านภาพพจน์ประเทศเอามากๆ

และ ต้องยอมรับกันด้วยว่า การออกโทรทัศน์ประกาศกร้าวถึงทหาร-ตำรวจของนายสมัครเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เป็นจุดอัปยศของประชาธิปไตยไทย

ยิ่งกว่ามีใครออกมาประกาศ "ปฏิวัติ" เสียอีก!!

เพราะ ปฏิวัติ ทุกคนก็รู้ว่า คืออำนาจเถื่อนเพื่อการปกครอง ไร้กฎ ไร้กติกาจากรากฐานประชาธิปไตย มันจะมาจากความพอใจ ความต้องการของคณะบุคคลผู้ก่อการเท่านั้น

แต่ทุกครั้ง รัฐบาลที่อ้างว่ามาจากประชาธิปไตยนี้ ก็เที่ยวแหกปากว่า "ผมมาจากการเลือกตั้ง"

แต่พฤติกรรมบริหาร ทำเยี่ยงอำนาจเผด็จการเถื่อน หรือหยาบกร้าน-ด้านหนากว่านั้นด้วยซ้ำ!

มีมั้ย..ประชาธิปไตยที่รวบหัว-รวบหางแก้รัฐธรรมนูญให้ "นาย" มันคนเดียว!

ประชาธิปไตย ใต้หนังเต่า ที่หาจิตสำนึกเอื้อเฟื้อต่อระบอบประชาธิปไตยแท้จริงไม่พบ แล้วแบบนี้ "มีความชอบธรรมอะไร?" ที่จะไม่ให้ประชาชนประธิปไตย ทั้งในถนน และในมุมเงียบ

ออกมาขับไล่!?

ที่อ้างว่า "เงื่อนไขชุมนุมหมดไปแล้ว" เพราะนายจักรภพ เพ็ญแข ลาออกไปแล้ว และญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปแล้ว นั่นก็มีน้ำหนักให้ต้อง "หยุดตั้งสติ" เพื่อใคร่ครวญได้อยู่

แต่ถ้ามองให้แตก ในความไม่เคยอยู่กับร่องกับรอยของรัฐบาลนี้ ใครก็จะยึดการลาออก และการที่ญัตติตกไป ถือเป็นจริง-เป็นจัง แล้วเลิกชุมนุมไม่ได้เด็ดขาด

ขืนเลิก ฝ่ายรัฐบาลก็จะนั่งหัวเราะกันว่า "ไอ้พวกพันธมิตรฯ หน้าโง่ แค่นี้มันก็เสียทีเชิงกล ถอยทัพกลับไปแล้ว!"

เพราะอะไร..เอ้า..มองให้ดี ที่นายจักรภพออก ไม่ใช่เพราะนายสมัคร ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลให้ออก แต่นายจักรภพ "ลาออก" ด้วยตัวเขาเอง

และ ที่ญัตติตกไป ไม่ใช่เพราะ ส.ส.พลังประชาชนที่นายสมัครเป็นหัวหน้าพรรคไปถอนชื่อในญัตติ หากแต่ว่า "ส.ว.จำนวนหนึ่ง" ต่างหาก ไปถอนชื่อจนเป็นผลให้ญัตติตกไป

ฉะนั้น ทั้ง ๒ ประเด็นนี้ รัฐบาลนำมาอ้างเป็นความชอบธรรมของตนว่า เป็นผู้สลายเงื่อนไขไม่ได้เลย เพราะด้วยตัวรัฐบาล ด้วยความเป็นพรรคพลังประชาชน

ไม่ได้ทำอะไรที่ส่อว่าเป็นผู้ "สลายเงื่อนไข" นั้นเลย!?

ตรง กันข้าม ในทันทีที่ทราบว่า สมาชิกวุฒิสภาไปถอนชื่อจนญัตติตกไป ก็รีบประชุมพรรค ลงมติให้ ส.ส.พลังประชาชน ๑ ใน ๕ เข้าชื่อเสนอเป็นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นไปใหม่

ก็ชัดเจนว่า นายสมัคร-พลังประชาชน หาได้สำนึก และมีความรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่จะเกิดกับประเทศชาติ-ประชาชนตามที่อ้าง ไม่ เงื่อนไขชุมนุม เงื่อนไขความขัดแย้ง "คนอื่น" เขาถอดไปให้แล้ว

แต่ตัวเองกลับ "สร้างเงื่อนไข" ขึ้นมาใหม่อีก!

สำหรับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่าโชคดีที่ได้นายสมัคร "เป็นลูกจ้างจุดไฟ" สร้างเงื่อนไขปลุกเร้าให้มวลชนออกมาร่วมชุมนุมอยู่ต่อ โดยยึด "อหังการเถื่อนๆ" ทางจอโทรทัศน์วันเสาร์เป็นความชอบธรรมที่จะสู้กับอธรรมเถื่อนนั้น

แต่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำเพื่อสังคมประชาธิปไตย ทำเพื่อรักษาความเป็นประเทศชาติ-ประชาชนไทยภายใต้สถาบัน ชาติ-พระพุทธศาสนา-พระมหากษัตริย์ใช่ไหม?

ฉะนั้น เหตุผล-เสียสละ-รับผิดชอบ ต้องอยู่เหนือหน้าตา อยู่เหนือคำว่าแพ้-ชนะ อยู่เหนือการได้-การเสีย

ฆ่ายุง-ที่กัดหน้าผากด้วยฝ่ามือตบ แค่นั้นก็สมเหตุผล

แต่ ถ้า ฆ่ายุง-ที่กัดหน้าผากด้วยการเอาปืนยิง ก็ช่วยกันตรองดูด้วยว่า บ้า หรือดี ถึงยุงตาย แล้วชาวเรา-คือคนไทยทั้งหมด จะอยู่กันได้มั้ย?

มวลชน ที่สู้ชนะ ไม่เคยปรากฏว่าชนะเพราะคนมากกว่า อาวุธมากกว่า เหิมเกริมมากกว่า มีอำนาจมากกว่า แต่ที่ชนะ เพราะฝ่ายที่มีอำนาจปกครองมากกว่า ใช้อำนาจนั้นไปในทางที่ "เลวร-ยำกว่า" ต่างหาก

ดังนั้น สิ่งที่ด้อยกว่าทุกด้าน แต่เป็นสิ่งที่ชอบ กอปรด้วยธรรม ชนทั้งมวลจึงยอมเดินตาม "ธงธรรม" ซึ่งไม่เคยลดต่ำ เพราะธรรมคืออำนาจเท่านั้น คืออำนาจแท้จริง

ไม่จำเป็นต้องฆ่า "ศัตรูที่ลอดหว่างขาหนีตาย" หรอกครับ หน้าที่ของการเมืองภาคประชาชน สำหรับนักการเมืองและรัฐบาลที่อสัตยธรรม ทำแค่นี้ก็ "สมหน้าที่" แล้ว

ไม่ ต้องถางป่าประชาธิปไตยทั้งป่า เพื่อไล่ล่าสัตว์ตัว-สองตัวหรอก รักษาประชาธิปไตยไว้ นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ควรให้ "จิตสำนึก" ของคนในกลไกรัฐบาล รัฐสภา และกฎหมาย เขารับไม้-ทำหน้าที่กันต่อไป

ขืนพันธมิตรฯ ก้าวข้ามเส้นแบ่งนี้ออกไป นั่น..บางทีตัวเองก็ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว!

ไม่ ให้โอกาสนายสมัคร แต่ให้เวลา "พรรครัฐบาล" เขาสักระยะสิครับ แล้วพันธมิตรฯ พักการชุมนุมภาคท้องถนนไว้ก่อน คอยเฝ้าระวังใกล้ชิดภายใต้เงื่อนไขว่า

๑.ฝ่ายรัฐบาลจะยังดื้อรั้นยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ และทำประชามติอีกหรือไม่?

๒.พรรคร่วมรัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร ถ้าพลังประชาชนไม่เปลี่ยนตัวนายกฯ?

ครับ.. ชุมนุมยืดเยื้อด้วยเงื่อนไข "ขับไล่รัฐบาล" ฟังแล้วกว้างไป แย้งเงื่อนไขประชาธิปไตยตัวเอง ขืนยึดเป็นเงื่อนไขชุมนุม นานไป-ความชอบธรรมจะเทกลับไปที่ฝ่ายรัฐบาล แล้วพันธมิตรฯ ก็จะกลายเป็น "ฉลาด ๒" ต้องต่อกรงเข้าไปนอนประท้วงอยู่คนเดียว อย่าลืม..ยกนี้ "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" ไม่มีรถถังเป็นระฆังช่วย สัปดาห์หน้า "บอลยูโรฯ" มา มวลชนก็จะพากันไปเฮ ออมแรงไว้สิงหา.ดีกว่า โหรบอกว่า "องศายังไม่ถึงครับ".
เปลวสีทอง

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

คุณเลือกทางใหน

มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว

มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่

เมื่อรถไฟแล่นมา คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่
แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน

หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม?
ลองหยุดคิดสักนิด มีทางเลือกใดที่เราสามารถตัดสินใจได้

คุณต้องทำการตัดสินใจก่อนที่จะอ่านต่อไป
รถไฟไม่สามารถหยุดรอให้คุณไตร่ตรองได้

คนส่วนมากอาจเลือกที่จะเปลี่ยนทางรถไฟ และยอมสละชีวิตของเด็กคนนั้น
ผมคิดว่า คุณก็อาจจะคิดเช่นเดียวกัน

แน่นอน ตอนแรกผมก็คิดเช่นนี้เพราะการช่วยชีวิตเด็กส่วนมาก
ด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนนั้นดูสมเหตุผลทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึก
แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ที่จริงเขาได้ตัดสินใจถูกต้อง ที่จะเล่นในสถานที่ๆปลอดภัยแล้วต่างหาก

แต่ทว่า เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ใส่ใจ และเลือกที่จะเล่นในที่อันตราย

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน
ในสถานที่ทำงาน ย่านชุมชน การเมืองโดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย
คนกลุ่มน้อยมักจะถูกเสียสละให้กับผลประโยชน์ของคนหมู่มาก
แม้ว่าคนกลุ่มน้อยจะฉลาด มองการณ์ไกล และคนหมู่มากจะโง่เง่า ไม่ใส่ใจก็ตาม

เด็กคนที่เลือกที่จะไม่เล่นบนรางที่อยู่ในการใช้งานตามเพื่อนๆของเขา
และคงไม่มีใครเสียน้ำตาให้หากเขาต้องสละชีวิตก็ตาม






เพื่อนที่ส่งต่อเรื่องนี้มาบอกว่า เขาจะไม่พยายามเปลี่ยนเส้นทางรถไฟ
เพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่า รางนั้นยังอยู่ในระหว่างการ
ใช้งาน
และพวกเขาควรจะหลบออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหวูดรถไฟ

ถ้าทางรถไฟถูกเปลี่ยน เด็กหนึ่งคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอน
เพราะเขาไม่เคยคิดว่ารถไฟจะเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนั้น

นอกจากนั้น รางที่ไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้นไม่ปลอดภัย
ถ้ารถไฟถูกเปลี่ยนเส้นทางมาที่รางนี้ เราทำให้ชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย
ในขณะที่คุณพยายามช่วยชีวิตเด็กจำนวนหนึ่งโดยการสละชีวิตเด็กหนึ่งคน
อาจกลายเป็นการสังเวยชีวิตผู้คนนับร้อยก็เป็นได้

เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากลำบาก บางครั้งเราอาจลืมไปว่า
การตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

จำไว้ว่า สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฎิบัติ
และสิ่งที่เป็นที่นิยม ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป

ทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้
และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551

จดหมายถึงโชติ...

โชติศักดิ์เอ๋ย!!! โลกใบนี้มีความเสมอภาคจริงหรือ? คุณต้องการความเสมอภาคทุกเรื่องเลยหรือ? สิทธิเสรีภาพที่คุณไขว้คว้าเรียกร้องนั้นมันต้องทุกเรื่องเลยหรือ? คุณต้องการอะไร? สิ่งที่คุณเรียกร้องนี้แค่สิทธิเสรีภาพเท่านั้น จริงหรือ? มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และตราบใดที่คุณยังอยู่ในสังคม ธรรมชาติย่อมสร้างกฏของสังคม เป็นสัจธรรมหรือความจริง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาบ่มเพาะอย่างยาวนาน มีที่มาที่ไป
ความจริงโดย ธรรมชาติ ก็คือ คุณจึงอย่าหวังว่าสิทธิและเสรีภาพของคุณจะไม่มีข้อจำกัด นอกเสียจากว่าคุณจะละทิ้งสังคม แล้วใช้ชีวิตอยู่คนเดียว นั่นสิ สังคมจึงจะไม่มีอิทธิพลต่อคุณ และคุณจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม? .....คุณเป็นนักศึกษา ลองหาหนังสือหรือตำราทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่าจะมาถึงวันนี้ สังคมที่หลอมรวมบรรพบุรุษของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยได้และต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง บทเรียนความช้ำใจก็เพราะคนไทยไม่รักกัน ประเด็นเล็กน้อยแต่สร้างความแตกแยกได้มหาศาล....
หากคุณจะรักและเทิดทูน ใครสักคน มันมีที่มาที่ไปและต้องใช้เวลาบ่มเพาะทางความรู้สึกอย่างยาวนาน อย่างแรก คนที่คุณจะรักต้องเป็นคนดี และทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวม คุณมองเห็น ถามว่าทำไมเราต้องรักและเทิดทูนกษัตริย์ มองด้วยใจเป็นธรรม วิเคราะห์ด้วยภูมิความรู้แห่งตน ก็เพราะท่านเป็นคนดี ชีวิตท่านทำเพื่อส่วนรวม เพื่อสังคมของเรา ซึ่งก็คือ “ชาติไทย” ..........หากสิ้นชาติไทยแล้วไซร้ สิทธิเสรีภาพของพวกคุณมันจะมีอยู่จริงหรือ?.
คุณไขว่คว้าสิทธิเสรีภาพและ ความเสมอภาพ ซึ่งมันไม่มีอยู่จริงในธรรมชาติของสังคมมนุษย์ ลองตรองดูหากทุกคนมีอิสระที่จะทำสิ่งใดก็ได้ตามใจ สังคมจะเป็นเยี่ยงไร จะสับสนอลหม่านเพียงไหน ............อย่าคิดว่าสิ่งที่เราทำเพื่อกษัตริย์มากมาย เป็นการให้อภิสิทธิ์แก่ท่าน แต่โปรดรับรู้ไว้ว่า สิ่งนั้นคือการเทิดทูนยกย่องคนดี ด้วยความต็มใจ เป็นแบบอย่างให้อนุชนได้รับรู้ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สังคมต้องมีหลักยึดเหนี่ยว สังคมต้องมีศูนย์รวม หากปราศจากศูนย์รวมแล้วไซร้ สังคมไทยย่อมแตกแยก มลายลง นั่นคือกลียุค.....
ทุก วันนี้นักการเมืองมากมาย นายทุนทั้งหลาย ก็พวกอภิสิทธิ์ชนทั้งนั้น ขายชาติ ปล้นประชาชน โกงกินสารพัด ไม่เห็นคุณจะไปเรียกร้องสิ่งใดหรือหาทางรณรงค์จัดการกับคนพวกนี้ โชติศักดิ์เอ๋ย!!! ถามว่าคนพวกนี้เท่าเทียมกับพวกเราจริงหรือ? ................ระหว่างที่เราต้องยอมสยบให้นักการเมืองและนายทุนเลวๆใน สังคม กับการที่เราจะยกย่องและเทิดทูนคนดีที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเอง นอกจากทำเพื่อชาติและประชาชน สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แผ่นดิน... ผมขอเลือกอย่างหลังด้วยความเต็มใจ แล้วคุณล่ะ จะเลือกสิ่งไร?
ตลอด ชีวิตของคุณที่ผ่านมา อย่าปฏิเสธเลยว่าคุณมิได้รับรู้ว่าท่านเป็นเช่นไร .......แต่เพราะอคติในใจคุณ และเพราะ............อีกหลายๆอย่างที่คุณย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าคุณทำเพื่อสิ่ง ไร? ขบวนการของคุณ อุดมการณ์ของคุณ กำลังย่ำยีชาติไทยและหัวใจของคนไทย วันนี้คุณอาจจะไม่รักท่านด้วยใจ ก็ไม่เป็นไร แต่คุณสามารถมองได้ด้วยธรรมในใจคุณ หากคุณยังพอจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง คุณต้องใช้เหตุผลในการมอง เปรียบเทียบดู กับสิ่งที่ท่านทำเพื่อสังคมเพื่อชาติไทยของเรา และสิ่งที่คุณพอจะทำให้ท่านได้บ้างด้วยการยกย่องเทิดทูนท่าน แสดงความเคารพในบุคคลที่ควรเคารพ มันยากและลำบากนักหรือ? ......
สังคม ไทยเป็นสังคมแห่งการให้อภัย หากคุณก้าวพลาดก็จงถอยหลังกลับมา.......อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร ลดอคติในใจคุณ มองทุกอย่างกลางๆ ทางสายกลาง คือทางแห่งเหตุผลและปัญญา .........ยอมรับว่าคุณมีสิทธิและเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ แต่วิเคราะห์ให้คุณเห็นว่า สิทธิและเสรีภาพอันน้อยนิดที่คุณต้องการนั้น สร้างปัญหาให้กับสังคมและประเทศชาติได้มากมาย คุณยังจะต้องการมันอีกหรือ เมื่อคุณชั่งน้ำหนักแล้วว่าสิ่งที่คุณต้องการนั้นมีโทษมากกว่ามีคุณ .........
โชติศักดิ์เอ๋ย!!! ประเทศชาติต้องการความกล้าของคุณ แต่คุณต้องปรับเปลี่ยนนำมาใช้ในทางที่สร้างสรรค์ คุณเป็นคนมีพลัง โปรดจงใช้พลัง เพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดิน โปรดช่วยดึงพี่น้องผองพี่ที่ตกอยู่ในขบวนการเบื้องหลังคุณคืนมา คืนมาให้สังคม ปรับเปลี่ยนวิธีคิด เพื่อออกมาจากความหลงผิด ......ร่วมกันสร้างความสามัคคีให้สังคม พลังของคุณยังทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ได้โปรดช่วยกันทำลายและเปิดโปงขบวนการที่ชักนำคุณมา .......คุณรู้อยู่ว่าขบวนการนี้มีใครบ้าง ณ เวลานี้คุณมีโอกาสแก้ตัวและตอบแทนแผ่นดินไทยแล้ว ด้วยการเลิกสร้างความแตกแยก และหาทางหยุดยั้งขบวนการที่ทำลายสังคมไทย...พาผู้หลงผิดกลับคืนมา ....
อย่า เถียงและอย่าเรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพจอมปลอมกันนักเลย แต่โปรดใช้ปัญญาตรองดู ว่าการกระทำสิ่งใดจะทำให้สังคมสงบสุข.....หากคุณเป็นพุทธศาสนิกชน โปรดรู้ไว้ว่า ความกตัญญูกตเวที นำมาซึ่งความเจริญ และความอกตัญญูนั้นนำมาซึ่งความเสื่อม การสร้างความแตกแยกให้กับสังคม การหลงมัวเมาอยู่กับความเชื่อที่มีโทษมากกว่ามีคุณ การปล่อยตัวไปกับอคติ เหล่านี้ ล้วนเป็น “บาป” ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น คุณจะสะสม “บาป” ไปทำไม
หาก คุณต้องการจะฝากชื่อในแผ่นดินนี้ คุณต้องทำความดีให้ปรากฏ สังคมไทยก็พร้อมจะยกย่องคุณ ....มันขึ้นอยู่กับคุณว่าต้องการ “การยกย่องสรรเสริญ” หรือการ “สาปแช่ง” ผมมิได้มิอคติกับคุณ เพียงแต่อยากช่วยชี้ทางสว่างและดึงคุณกลับมา เพราะคุณกำลังหลงทาง ......โชติศักดิ์เอ๋ย!!! โปรดใช้ปัญญาคิด ตรองดู เลิกสร้างความแตกแยก และหาทางหยุดยั้งขบวนการที่ทำลายสังคมไทย...พาผู้หลงผิดกลับคืนมา หากคุณทำได้ คุณนั่นแหละคือฮีโร่ตัวจริง .......แต่....หากทำไม่ได้....โปรดจงรู้ไว้ว่า “บาป” จะตามติดตัวคุณไป ตลอดกาล.....

จากสัญญา โศภาอรุณรุ่ง (ศิษย์เก่า มธ.)
สัญญา โศภาอรุณรุ่ง / sanyas@ratchgen.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

ถ้าคุณเป็นภรรยา...แล้วเจอเรื่องแบบนี้..จะทำยังไง

ดิฉันแต่งงานเมื่อ พ.ศ. 2534
และได้อยู่กินกับสามีด้วยดีจนมีลูกสาวนและลูกชายอย่างละคน
ชีวิตก็มีความสุขดี มีรถยนต์ มีบ้านในเนื้อที่ 110 ตารางวา บนถนนแจ้งวัฒนะ
ดิฉันมีน้องสาว 1 คนเค้าไปได้สามีที่มีเมียหลวงอยู่แล้ว ตอนหลังเค้าเลิกกัน
เขามาหาดิฉัน
ดิฉันก็ให้น้องสาวมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่ามาคนเดียวนะคะ ส่วนลูกๆอยู่กับสามีเขา
 
น้องสาวมาอยู่กับดิฉันได้หลายปี *จนมาวันหนึ่งหัวใจดิฉันเกือบสลาย*
คือสามีดิฉันจะเลิกงานเวลา 24.00 น. และในเวลา 00.45 น.
ดิฉันได้ยินเสียงรถของสามีมาถึงบ้านแล้ว
 
แต่ดิฉันหลับต่อมาตกใจตื่นตอนตี 2 กว่านิด หน่อย ไม่เห็นสามีนอนอยู่
ลุกขึ้นไปดูที่ห้องลูกๆก็ไม่มี ในห้องน้ำก็ไม่มี ใจหายวาบ
รีบลงมาที่โซฟาข้างล่างก็ไม่มี รถยนต์ก็จอดอยู่แต่สามีดิฉันไปไหน
*มองที่ประตูบ้านก็ใส่กลอนอยู่*
ดิฉันหัวใจเต้นแรงมาก *เหลืออยู่ห้องเดียวคือ...ห้องน้องสาว..*ของดิฉัน
ดิฉันเดินไปเปิดไฟจนสว่างทั่วบ้าน หัวใจเต้นแรงผิดปกติ อยากจะเป็นลม
แล้วมองไปที่ห้องของน้องสาวแล้วพยายามตั้งสติคิดในใจว่า
ถ้าเขาเดินออกมาจากห้องนั้นดิฉันจะทำอย่างไร
ดิฉันนั่งมองประตูห้องของน้องสาว น้ำตาจะไหล นึกในใจว่า จะทำอย่างไร?
เราจะทำอย่างไรดี ลูกก็ยังเล็ก ดิฉันตัดสินใจ?เลิก?
แล้วให้เขาไปอยู่กับน้องสาวที่อื่นส่วนดิฉันจะอยู่กับลูก
คือยกสามีให้น้องสาวไปถ้าเขารักกัน
จนประมาณตี 3 กว่าๆ ดิฉันในใจว่าถ้าดิฉันโทรฯ เข้ามือถือเขา
แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ต้องดังออกมาจากห้องน้องสาวแน่ๆเลย
เป็นไงเป็นกันดิฉันตัดสินใจโทรฯแล้วก็ติดจริงๆค่ะ
ใจดิฉันเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมาข้างนอก
ดิฉันยืนแอบอยู่หน้าห้องน้องสาว....
แต่เอ๊ะไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากในห้องของน้องแต่โทรฯติด
เขาอยู่ใหน?
ฮัลโหล??
เธออยู่ไหน? ดิฉันตวาด

อยู่ในรถจ้ะ ก็เธอใส่กลอนในบ้าน เข้าบ้านไม่ได้ ช่วยเปิดให้ หน่อย สิจ้ะ ?
เฮ้อเบื่อตัวเองจริงๆ

---

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2551

ผมโดนด่าว่าควาย

จากเรื่อง จริงของใครบางคนครับอ่านแล้ว คิดดูนะครับ

ขณะที่ผมกำลังขับรถเดินทางไปจังหวัดลำปางซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวบนเขาจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษทันใดนั้นเองผมเห็นรถโผล่พ้นเหลี่ยมเขาซึ่งเป็นทางโค้งวิ่งมาด้วยความเร็วลักษณะส่ายไปมาแถมยังกินเลนเข้า มายังถนนฝั่งของผมทำให้ผมต้องเบรกจนตัวโก่งพร้อมกับหักรถหลบลงไหล่ทาง
คนขับเป็นผู้หญิง ก่อนที่รถจะสวนกันเขาก็ชะโงกหน้าออกจากรถแล้วตะโกนด้วยเสียงดังว่า ' ควาย...ย...ย'
มันทำให้ผมโมโหมากจึงตะโกนสวนออกไปว่า' E... ค...ว...า...ย'

ขี่รถผิดกฎจราจรจนเกือบทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่พอยังมาด่าเราอีกยังดีนะที่เราด่ามันทันก่อนที่มันจะขับรถสวนพ้นไป

มัวแต่นึกแค้นใจที่ถูกด่าอยู่นั้นทันทีที่ผมขับรถพ้นเหลี่ยมเขา' เอี๊ยด...เอี๊ยด...โครม... ' รถผมก็ชนควายเข้าอย่างจัง

( ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ด่าเรา แต่เขาบอกเราว่ามีฝูงควายอยู่ข้างหน้าเพราะกรอบความคิดที่เกิดจากประสบการณ์ของเราทำให้เราเข้าใจผิดคิดว่าความหวังดีที่เตือนให้ระวังเพราะมีควายอยู่ข้างหน้า กลายเป็นการคิดว่าถูกด่าว่าเป็นควาย )
นี่คือโทษของการคิดอยู่แต่ในกรอบ และมองโลกในแง่ร้ายเสมอ

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551

The meaning of Wife

คำว่า "ภรรยา" ในภาษาไทยนั้น หากเป็นภาษาอังกฤษ เขียนว่า Wife โดยที่เราสามารถแยกอักษรแต่ละตัวออกมา และมีความหมายเช่นเดียวกันกับคำว่า



Family (Father And Mother I Love You)





จากการแยกความหมายตามตัวอักษรได้ความว่าดังนี้

W ย่อมาจาก without แปลว่า นอกเหนือจาก

I ย่อมาจาก Information แปลว่า การแจ้งให้ทราบ

F ย่อมาจาก Fighting แปลว่า การต่อสู้ (ทะเลาะ)

E ย่อมาจาก Everyday แปลว่า ทุกๆวัน




นำคำทั้งหมดที่ได้มารวมกันเป็นประโยคแล้วก็จะได้ว่า



Without Information Fighting Everyday



คำว่าเมีย เอ๊ย ภรรยา จึงแปลเป็นไทยได้ใจความว่า


"หาเรื่องทะเลาะได้ทุกๆวัน โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า(ไม่มีเหตุผล)"





จบข่าว ………………………..ไปแว๊วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551

อยากให้อ่าน ดีมาก (เรื่องจริงของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ)

มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ
กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต..
แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน 5 - 6 คน...

ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร...

วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ
แกก็คว้าปืนยาว...สะพายบ่า...เดินเข้าป่าไป...
อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ...คือแกงเนื้อลิง...

พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก.

เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้..
แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง..

เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น...ป กติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก   ต้นไม้ทันที...

แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา...จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่
น่าเป็นไปได้...
เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น...ระยะแค่นี้
เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน...
ในขณะที่กำล ั งสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้อง
โหยหวน...เสียงดังมาก... ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ๆ...
วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง... แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกัน
หมด...

แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...

สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง... โยนวัตถุเล็กๆ...
สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด...
แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม ้...คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...
ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง...
ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว...
 คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี...
ลิงที่ตกลงมา...เป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง...เธอกำลังให้นม ลูก...

ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข...ทันทีที่ถูกยิง..
ถ้าเป็นลิงตัวอื่น...
จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..

แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้..

เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ...รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้น < /TT>
อันตราย...
เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้...แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ...มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง
ด้วยความตกใจ...พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมีเหลือทั้งหมด...
ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก...ฝูงลิงเข้ามาใกล้ๆ..
แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ

หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไปจนลับสายตาแล้ว..
แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว...จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา...ตาย..

คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้...เพราะที่เบ้าตาลิง...มี
หยดน้ำตาใส   ๆ.
กำลังไหลริน...คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...
ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลย...ตลอดชีวิต..

และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...
เป็นแรงบันดาลใจ.
ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้น มาเพลงหนึ่ง...
ชื่อว่า... ' ลิงทะโมน... '
เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก

*****************

แม่นะหรือ... คือผู้สร้าง ทุกสิ่ง อันยิ่งใหญ่
คือผู้รัก ลูกตน กว่าใครใคร
คือผู้คอย ห่วงใย ทุกเวลา

คือคนร้อน เมื่อลูกรุ่ม
กลุ้มเรื่องทุกข์
คือคนสุข เมื่อลูกนั้น มีหรรษา
 คือคนปลอบ เมื่อลูกเหงา เศร้าอุรา
คือคนคอย ให้เมตตา ลูกทุกคราว

เป็นสายฝน คอยช่วยให้ ลูกสดชื่น
เป็นผ้าผืนคอยห่มให้ เพื่อคลาย ห นาว
เป็นกระโถน คอยรับทุกข์ ทุกเรื่องราว
เป็นบันได ไต่ดาว ลูกก้าวไป

เป็นคุณครู ผู้สอนสั่งทุกอย่างหนอ
เป็นคุณหมอ คอยรักษา จะหาไหน
เป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ได้ดั่งใจ
จะหาใครได้เท่าแม่เหมือนไม่มี

สาธยาย อย่างไร คงไม่หมด
พระคุณแม่ ยากแทนทด เหมือนปลดหนี้
สิ่งล้ำค่า
ใดใด ในปฐพี
จะเทียมเท่า คุณแม่นี้ ไม่มีเอย.


----- จบการส่งต่อข้อความ -----

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551

เคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่

อย่างที่ทราบกันว่าชีวิตคู่ที่หวานชื่นและสุขสมนั้นไม่ได้เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นโดยคนเพียงคนเดียว
หากแต่เป็นความร่วมใจที่จะพัฒนาตนเองของทั้งสองฝ่าย
เพื่อประคองให้ครอบครัวดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุขและยืนยาว
ซึ่งเคล็ดลับดูแลชีวิตคู่ดีๆ มีดังนี้

1. เริ่มชีวิตคู่ด้วยความรัก... และเติมความรักให้กันอย่างสม่ำเสมอ
หวานกันเรื่อยๆ เช่น อย่าลืมกระซิบคำพูดแสนหวานให้เขาฟัง
จูงมือกันยามเดินข้ามถนน หรือแม้แต่บอกเขาว่าเขาพิชิตใจคุณได้อย่างไร
ที่สำคัญ อย่าลืมแสดงความรักของคุณให้เขารู้ ลองซื้อดอกไม้ ขนม
หรือแอบส่งโปสต์การ์ด
เพราะจะทำให้คุณรู้สึกดีที่ได้แสดงความรักแก่คนที่คุณรักอย่างสม่ำเสมอ

2. จงเป็นเพื่อนที่รักกัน
เมื่อรักกันใหม่ๆ ก็คิดว่าจะเป็นสามีภรรยาที่ดีต่อกันและกัน
แต่ความเป็นสามีภรรยากันนั้นเปลี่ยนแปลงได้ แยกจากกันได้
ไม่ค่อยจีรังยั่งยืน ความเป็นเพื่อนต่างหากที่ยั่งยืนกว่า
เพราะเมื่อคุณเป็นเพื่อนรักกันแล้ว คุณก็จะพยายามเข้าใจกัน ไว้ใจกัน
ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
และให้อภัยกันเสมอในยามที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา
ตราบใดที่ความรักฉันหนุ่มสาวของคุณก็ยังคงดำรงอยู่
ตราบนั้นความเป็นเพื่อนคู่ชีวิตจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป

3. จงซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของคุณเองและคนรักของคุณ
ความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก หมายถึง
การอธิบายความรู้สึกของคุณอย่างตรงไปตรงมาแก่คนรัก อย่าปิดบังความรู้สึก
ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดหรือโกรธเคือง
จงบอกเขาอย่างไม่ต้องอาย
เพราะความรักเป็นเรื่องของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
และดูแลความรู้สึกของกันและกันตลอดเวลา

4. หากิจกรรมทำร่วมกัน ข้อนี้ง่ายมาก
เพราะความสุขเกิดขึ้นได้เมื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
โดยหากิจกรรมที่ทั้งคู่สามารถทำด้วยกันแล้วมีความสุข
อาจเป็นกิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น ทานข้าว ดูโทรทัศน์
หรือจะเป็นกิจกรรมที่มีความสนใจร่วมกัน เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นกีฬา ฟังเพลง
หรืองานบ้านก็เป็นกิจกรรมได้ อย่างเช่นการทำกับข้าว ล้างรถ
ที่ทั้งสองฝ่ายต่างทำด้วยความเต็มใจ ไม่เร่งร้อน
และมีความรู้สึกสนุกเมื่อได้ช่วยกันทำ ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระหน้าที่

5. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงดีและฟิตอยู่เสมอ
ออกกำลังกาย ควบคุมการรับประทานอาหารให้ได้พลังงาน
และคุณค่าที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต พักผ่อนกันอย่างพอเพียง
พยายามหาเวลาไปพักผ่อนสุดสัปดาห์เป็นประจำ เชื่อไหมว่าคนเรานั้น
ถ้าร่างกายสมบูรณ์แล้ว อะไรต่อมิอะไร ไม่ว่าจะเป็นงานหนักหรือความเครียด
ก็จะลดลง ทำให้ไม่มีปัญหาครอบครัวตามมา นอกจากนี้ควรมองโลกในแง่ดี
เพราะจะทำให้สุขภาพจิตของคุณดีขึ้น มีความสุข ไม่เศร้าหมอง
เป็นผลดีต่อคู่ชีวิตที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมาก

6. ชีวิตนี้สั้นนัก...จงมีชีวิตอยู่อย่างรู้คุณค่าชีวิตของคนเรานั้นแสนจะสั้น
ดังนั้นควรมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์สีฟ้าดวงน้อยๆ ดวงนี้ด้วยความรัก
และรู้ค่าของคนที่คุณรัก
เพราะทำให้คุณตระหนักถึงการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณอย่างมีคุณค่า
และสัมผัสถึงความรักที่ส่งถึงกันและกัน

เคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่ที่ดีคงไม่ได้แค่มีไว้อ่าน
หากแต่คุณลองเริ่มต้นสร้างปาฏิหาริย์แห่งรักด้วยตัวคุณเสียแต่วันนี้

ที่มา : นิตยสารชีวจิต

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551

AV ไม่ใช่หนังโป๊

สำหรับผู้ที่จะอ่านบทความต่อไปนี้ขอให้เป็นบุคคลที่อายุเกิน 18 ปีเท่านั้น อนึ่ง สารคดีนี้ไม่ได้มุ่งเพื่อต้องการเสนอเนื้อหาที่ลามกหรือส่งเสริมให้มีการชมหนังโป๊แต่อย่างใด

หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หลายคนในบ้านเรา คงรู้จักหนังAVเป็นอย่างดี บางคนเข้าใจว่าหนังAVคือหนังโป๊ญี่ปุ่น จะว่าอย่างนั้นก็คงจะไม่ผิดนัก ทว่า ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆแล้ว หนังAVไม่ใช่หนังโป๊และหนังโป๊ก็ไม่ใช่หนังAV เพราะทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันอยู่ อาทิ หนังโป๊ไม่มีการเซ็นเซอร์ หนังโป๊(ส่วนใหญ่)ไม่มีเรื่องราว และที่สำคัญถ้าจะเรียกว่าหนังAV นางเอกต้องสวย

สำหรับในประเทศญี่ปุ่น หนังโป๊ หรือหนัง AV ไม่ใช่เรื่องแปลก น่าอาย หรือผิดกฏหมายจนต้องแอบดู ในทางกลับกันหากเราไปที่ประเทศญี่ปุ่น จะพบว่าแผงขายหนังสือโป๊หรือร้านเช่าซีดีโป๊จะตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ เรียกว่าเปิดขายกันแบบโจ๋งครึ่มไม่เกรงใจใคร ซึ่งแต่ละร้านก็มีชายตั้งแต่วัยรุ่น ยันหัวหงอกเลือกซื้อเลือกหากันอย่างปกติ

นอกจากนี้ ยังมีการติดภาพโฆษณาในสถานที่สาธารณะและสถานท่องเที่ยวต่างๆอย่างดาษดื่น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะหนังโป๊สำหรับประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องผิดกฏหมาย และผู้ขายก็ปฏิบัติตามกฏเหล็กอย่างเคร่งครัด คือ ไม่ขายให้กับผู้ที่อายุตํ่ากว่า 18 ปี

ทุกวันนี้ อุตสาหกรรมหนังโป๊ในญี่ปุ่นถือว่าเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก มีการตั้งค่ายหนังกว่าร้อยค่ายเพื่อผลิตหนัง AV ป้อนเข้าสู่ตลาด ซึ่งว่ากันว่ามีมูลค่ามากถึงพันล้านเยนต่อปี มีการตั้งแฟนคลับสำหรับนางเอก AV ซึ่งบางคนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาจจะมากกว่าดาราJ Popหลายคนเสียอีก โดยนางเอก AV บางคนโด่งดังขนาดออกอัลบั้มเพลง ออกรายการเกมโชว์ เล่นภาพยนตร์ในต่างประเทศ แถมบางคนสามารถผลักดันตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิง จนมาทำงานหน้ากล้องโทรทัศน์ได้อีกต่างหาก อาทิ Ai Ijima ดารา AV ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ประกาศและพิธีกรได้อย่างหน้าตาเฉย

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้หนังโป๊เป็นที่ยอมรับในญี่ปุ่นมาจากสภาพสังคมการแข่งขันกันสูง สภาพเศรษฐกิจที่กดดัน จากค่าครองชีพที่สูง วัฒนธรรมการทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดความตรึงเครียดมากในแต่ละวัน ผู้คนต้องการปลดปล่อยตัวเองจากสภาพสังคมที่เคร่งครัดหนัง AV จึงถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจในด้านมืดของคนญี่ปุ่น สังเกตได้จากเนื้อหาของหนัง AV บางเรื่องที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก

อนึ่ง หนัง AV ย่อมาจาก Adult Video (หนังโป๊ หนังผู้ใหญ่) ในประเทศญี่ปุ่นจำกัดอายุของผู้ชมไว้ที่ 18 ปีเช่นกันทั้งสื่อที่เป็นภาพยนตร์ ที่ใช้คนแสดง หรืออะนิเมะชั่นที่เป็นการ์ตูน โดยกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นได้จำกัดสื่อเอาไว้ว่า หากจะขายหนังโป๊ได้อย่างถูกกฎหมาย จำเป็นที่จะต้องทำการเซ็นเซอร์ หรือทำภาพโมเสกไว้

ดังนั้น หากหนังโป๊ที่ไม่ได้ผ่านการเซ็นเซอร์ที่อวัยวะเพศของผู้แสดง จะถือว่าเป็น หนังใต้ดิน หรือ เรียกง่ายๆ ว่าหนังเถื่อน ซึ่งมีศัพท์เรียกเฉพาะว่า Ura

โมเสก (Mosaic) คือ สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงสำหรับหนัง AV บางคนเรียกว่า หมอกลง ใช้เพื่อนำมาบังจุดสำคัญ ทำให้มองให้เห็นจุดระทึกไม่ค่อยชัดนัก โมเสกกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนัง AV ซึ่งผู้ชมจะต้องใช้จินตนาการในการดูเป็นอย่างมาก

กระนั้น โมเสกนี่เองที่ทำให้หญิงสาวหน้าตาดีหลายคนตัดสินใจเล่นหนังโป๊ ซึ่งอ้างว่าไม่ได้เสียหายอะไร อีกทั้งยังได้ค่าตอบแทนต่อเรื่องในราคาสูง หากเทียบเป็นเงินไทยคาดประมาณ ห้าหมื่นไปจนถึงหนึ่งแสนบาท
นางเอก AV บางคนที่เลิกราวงการหนังโป๊ญี่ปุ่นมาเข้าสู่วงการบันเทิงบอกว่า ไม่มีความเสียหายอะไร เนื่องจากมีโมเสกบัง เบื้องหลังโมเสกจริงๆแล้ว ไม่ได้มีการร่วมเพศ เป็นการใช้มุมกล้องให้ดูเสมือนจริง ฉากที่มีการเลอะเทอะเปรอะเปื้อนก็เป็นเพียงนมผสมไข่ขาวให้เหมือนอสุจิเท่านั้น (แหม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงฝ่ายเทคนิคคงทำงานหนัก)

ทั้งนี้ นางแบบที่แสดงหนังโป๊ หรือ นางเอก AV มีการพัฒนาโดยการถ่ายภาพนางแบบสวยๆ น่ารักๆ ในชุดว่ายน้ำ หรือในชุดอื่นๆ ซึ่งนอกเหนือจากการถ่ายเป็นภาพนิ่งแล้ว ยังนิยมถ่ายในรูปแบบไฟล์วีดีโอ หรือในรูปแบบวีซีดีหรือดีวีดีอีกด้วย


นางเอก AV บางคนก็มีการถ่ายแบบด้วย แต่จะออกแนวเซ็กซี่มากกว่า ถ้าเปรียบกับบ้านเราก็คือหนังเรทอาร์ สำหรับในญี่ปุ่นจะเรียกว่าฟูลนู้ด (Full Nude) มีการโพสท่าที่เซ็กซี่กว่านางแบบทั่วไป และมีการถอดเสื้อผ้า ซึ่งจะแตกต่างกับนางแบบทั่วไป โดยจะสังเกตได้จากปกหน้าและปกหลัง จะวาบหวามมากกว่า มีการระบุไว้บนปกชัดเจน

หลายคนไม่รู้ก็อาจะคิดว่าพวกเธอแค่เป็นนางแบบถ่ายชุดว่ายนํ้าเฉยๆ ทว่า เมื่อพบเธอแสดงในหนังAV ก็ถึงกับใจสลาย ด้วยความเสียดายหรืออะไรก็ตามแต่

ตัวละครอีกตัวที่พบบ่อยๆในหนัง AV ก็คือ ยากูซ่า ที่มาที่ไปไม่มีใครรู้ว่า ยากูซ่ามาผูกพันกับวงการหนังโป๊ของญี่ปุ่นจริงๆหรือไม่ แต่ก็เคยมีเรื่อง กล่าวว่า ดาราหญิงที่มาแสดง AV นั้นถูกพวกยากูซ่าบังคับมามีการกรรโชกต่างๆนานา หลายคนไม่รู้ว่านี่คือการจัดฉากหรือเรื่องจริง ซึ่งก็คงเป็นความตั้งใจของผู้ที่ทำหนัง เพื่อมาตอบสนองกลุ่มคนที่มีรสนิยมแปลกพิศดารจำนวนหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ฉากที่มีความรุนแรง คล้ายกับการขัดขืนใจกันในหนัง AV ไม่มีใครกล้าฟันธงว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งบางฉากผู้ชายใจแข็งเกือบทุกคนยังต้องเบือนหน้าหนี หากว่ากันตามหลักความเป็นจริง ถ้ามีการขัดขืนใจกันแล้วนำภาพมาเผยแพร่ก็เป็นเรื่องผิดกฏหมาย ตำรวจญี่ปุ่นก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว โดยประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีสถิติอาชญากรรมตํ่ามากๆ ดังนั้น ฉากรุนแรงในหนังAVน่าจะเป็นการเซ็ทขึ้นมาซะมากกว่า(ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ)

ฉากร้องไห้ โดยมากจะเห็นว่า ดาราหญิงในหนัง AV มักจะร้องแสดงความเจ็บปวด หรือไม่ก็หลายๆครั้งที่เธอจะร้องไห้ ไม่ว่าเธอจะเจ็บจริงหรือเสแสร้งก็ตาม มีคนกล่าวว่า ท่าทีเขินอายเช่นนั้นคือ จุดเด่นของหนังโป๊ญี่ปุ่นที่ทำให้ผู้หญิงดูเหมือนจะมีสิ่งให้ค้นหามากกว่า หนังโป๊ฝรั่งที่ดาราหญิงมักจะแสดงท่าทางการแสดงที่เจนจัดชั้นเซียนออกมาเสียจนขาดอรรถรส

เกร็ดเกี่ยวกับหนังAV

คำศัพท์หน้าปก มักจะมีคำศัพท์เฉพาะสำหรับหนัง AV แต่ละประเภท บางคำมันก็ hardcore โจ๋งครึ่มเกินกว่าที่บรรยายได้ เอาแค่ คำที่น่าจะเห็นๆกันบ้างก็มี

Debut (เดบิวท์) คือ หนังเรื่องแรกของ ดาราหญิงคนนั้นๆ เพื่อเปิดตัวเข้าวงการ ซึ่งจะมีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเธอ และเป็นเรื่องปกติที่ตัวเธอจะแสดงอาการเขินอาย ร้องไห้
Bukkake (บัก-กา-เกะ) คือ หนังที่ดาราชายหลายคนมารุมล้อม...ดาราหญิง
Zenra (เซน-ระ) คือ หนังที่ดาราหญิงเปลือยกายในการทำกิจกรรมต่างๆ (เหมือนกับไม่มีอะไรผิดแปลกประหลาด) เช่น ทำงานบ้าน เล่นบัลเลต์ เล่นมวยปล้ำ
Cosplay (คอสเพลย์) มาจาก Costume play หรือการเล่นชุดเสื้อผ้าเครื่องแบบต่างๆ แบบที่แต่งออกงานเลียนแบบตัวการ์ตูนดังๆ แต่ถ้า ใช้กับ AV หมายถึงการแต่งชุดนักเรียน ชุดแอร์โฮสเตส ตำรวจ เซลเลอร์มูนในฉาก เป็นต้น

บทพูด ถึงแม้ว่าหนังแบบนี้จะไม่ค่อยมีบทพูดอะไรเยอะนัก แต่ก็มีคำฮิตที่มักจะได้ยินใน AV เช่น
โมะ-โตะ = เอาอีก
อิ-ไต-โยะ = เจ็บนะ
อิ-คึ = ใกล้ถึงแล้ว (ถึงไหน ไม่ต้องบอกใช่มั้ย)
อี-ร่าน = หญิงเสเพล (เอ๊ะ ภาษาไทยหรือเปล่า)
ดา-เมะ = อย่า
สึ-โก-อี-นาส = สุดยอด

และเราก็มักจะได้ยินผู้ชายพูดกันว่า วันนี้จะไปฝึกภาษาญี่ปุ่น ก็เป็นอันเข้าใจว่า จะฝึกฟังไม่กี่คำนี้นั่นแหละ

_________________________________________________________________
ตกแต่งรูปของคุณได้เหมือนมืออาชีพด้วย Photo Gallery
http://www.get.live.com/wl/all

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2551

คำนิยาม

แห้ว - อาหารเสริมของคนอกหัก
ระกำ - อาหารหลักสำหรับคนช้ำใจ
น้ำตา - สุขหรือเศร้าก็มีเขาเป็นเพื่อนแท้
เรื่องใหญ่ - เรื่องของ KU
เรื่องเล็ก - เรื่องของ..ง
เ สื อ ก - ความหวังดีที่ผิดกาลเทศะ ไม่มีใครต้องการ
สอด - เป็นชื่อปลาที่น่ารัก ถ้าเป็นกริยาจะน่าถีบ (แล้วถ้าเป็นการกระทำล่ะท่าน)
ลาว - คนอ่าน
วิสามัญ - กรณีที่ตำรวจทำปืนลั่นใส่คนร้าย
ดอกเบี้ย - ดอกไม้ที่ไม่เคยโรยรา
ทอง - สูงค่า แต่จะต่ำมากถ้านำหน้าด้วย “ดอก”
ปาก - บ้างมีไว้พูด บ้างมีไว้ถากถาง
ตีน - ไว้ใส่ปากคนที่ชอบถากถาง
กระเทย - เธอทำได้เช่นหญิงทุกอย่าง ยกเว้นออกลูก
ป่า - มีน้อยลงทุกวัน แต่ป่าเดียวกันเริ่มมีมากขึ้น
แ ร ด - ในป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ ในเมืองกลับเกลื่อน
เ หี้ ย - วิ่งพล่านยามมีคนโกรธ
งู - สัตว์ชนิดหนึ่งพ่อเฒ่านิยมเลี้ยงไว้บนศีรษะ
ตีนกา - ตีนสัตว์ที่คุณหญิงไม่ปรารถนา (กรูก็ไม่ชอบแม้จะเป็นชายแท้)
ตำราเรียน - สิ่งที่ใช้หนุนหัวแทนหมอนยามใกล้สอบ
ปริญญา - สิ่งที่สังคมไทยใช้วัดค่าของคน
เพจเจอร์ - เสียงประหลาดที่ก่อกวนยามดูหนัง
โทรฯมือถือ -เครื่องประดับที่วัยรุ่นมีไว้โชว์ว่าข้ารวย $$
ขยะ - แยกประเภทแล้ว Recycle กลับมาใช้ใหม่ได้
ขยะสังคม - ไม่ควร Recycle กลับมาใช้ใหม่
ตอแหล - อาการของคนฉ้อฉลที่บอกว่าตนโปร่งใส
เช้าชาม เย็นชาม - วิธีประหยัดงบประมาณของภาครัฐ
ม๊อบ - กลุ่มคนที่งานการไม่ทำชอบทำการปิดยึดถนน
อภิปรายไม่ไว้วางใจ - การแสดงโต้วาทีระดับชาติ
ปาหี่ - การแสดงชนิดหนึ่ง ปัจจุบันหาชมได้ที่รัฐสภา
สาดโคลน - การละเล่นชนิดหนึ่งของนักการเมืองไทย
หน้าด้าน -อาการดื้อชนิดหนึ่งที่ประชาชนไล่แล้วไม่ยอมไป
ธรรมะ - ถ้าตามด้วย “ชโย” ไม่ต้องพูดกัน
แกว่งปากหาเท้า - งานอดิเรกของใครบางคน
ชีวิต - เป็นอะไรที่เลือกได้บ้างไม่ได้บ้าง
ความสุข - เป็นช่วงเวลาที่มักจะผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน

โปรแกรมใหม่ " ภรรยา1.0 " หาโหลดได้แล้ววันนี้ (ภาคต่อ)

...เรียนฝ่ายบริการเทคนิค...

เมื่อปีที่แล้วผมได้อัพเกรดโปรแกรม จาก ' แฟน 7.0 ' มาเป็น ' ภรรยา1.0 '

และได้พบว่าโปรแกรมนี้มีอาการแปลกๆรวมถึงกินพื้นที่และ

ทรัพยากรอันมีค่าเป็นจำนวนมากและอาการที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีการกล่าวถึงในเอกสารแนะนำ

สินค้าเลย

' ภรรยา 1.0 '

ได้ทำการติดตั้งตัวเองและทำงานเองโดยระบบจะคอยตรวจสอบความเป็นไปของโปรแกรมอื่นๆ

อาทิเช่น

' ป๊อกเด้ง 10.3 '

' อาร์ซีเอ 2.5 ' และ ' จูเลียน่า 5.0 ' ทำให้ไม่สามารถรันได้ และ

เกิดเหตุการณ์ระบบล่มขึ้น เมื่อโปรแกรมเหล่านี้ถูกเรียกใช้

ผมจึงคิดที่จะกลับไปใช้โปรแกรม ' แฟน 7.0 ' แต่ปรากฎว่าโปรแกรมมัน Uninstaller

ซึ่งไม่สามารถทำงานได้...กรุณาช่วยผมด้วยครับ และขอขอบคุณล่วงหน้า

...จากผู้ใช้ที่มีปัญหา...

หมายเหตุ : ได้ข่าวว่ามี ' ภรรยา 1.2 ' ( Bug Fixed ) ออกมาแล้ว

ใครมีช่วยเมตตาส่งให้ผมด้วยเถิด

...เรียน ท่านผู้ใช้ที่มีปัญหา...

นี่เป็นปัญหาที่ลูกค้าได้ติดต่อเข้ามาบ่อยมาก

แต่ขอชี้แจงว่าปัญหานี้เกิดจากความเข้าใจผิดในปฐมบท ผู้ใช้ส่วนมากอัพเกรดจาก

' แฟน 7.0 ' ไปเป็น ' ภรรยา 1.0 ' เนื่องจากคิดว่า ' ภรรยา 1.0 '

เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ และเพื่อความบันเทิง( Utilities & Entertainment )

แต่อันที่จริงแล้ว ' ภรรยา1.0 ' เป็นระบบจัดการ(Operating System)

ซึ่งผู้สร้างได้ออกแบบให้รันทุกอย่าง และ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่สามารถถอดถอน '

ภรรยา 1.0 '

หรือแม้แต่การแปลงกลับไปเป็น ' แฟน 7.0 ' เพราะระบบจะทำการจำลอง ' แฟน 7.0 '

ให้ทำงานเป็น ' ภรรยา 1.0 ' อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อันใด

มีบางท่านได้พยายามที่จะติดตั้ง ' แฟน 8.0 ' หรือ ' ภรรยา 2.0 '

แต่ท้ายสุดก็มีปัญหามากขึ้นกว่าเดิม

จึงขอให้ท่านดูหนังสือคู่มือการใช้งานในหัวข้อ " ข้อควรระวัง - สินไหมทดแทน "

ผมขอแนะนำให้คุณใช้ ' ภรรยา 1.0 ' ด้วยความระมัดระวัง และผมอยากให้คุณติดตั้ง

โปรแกรม ' c:\\ได้จ้ะที่รัก ' เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งจากการใช้โปรแกรม

' ภรรยา1.0 ' ทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือคุณจะต้องเรียกคำสั่ง ' c:\\ขอโทษจ้ะที่รัก

' ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ ' c:\\ได้จ้ะที่รัก ' ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่ง '

c:\\ขอโทษจ้ะที่รัก '

จะช่วยให้ระบบจัดการเข้าสู่สภาพปกติได้ และระบบจะทำงานได้อย่างราบรื่นต่อไป

โปรแกรม ' ภรรยา 1.0 ' เป็นโปรแกรมที่ดีแต่ต้องการการดูแลที่สูงคุณควรที่

จะซื้อซอฟแวร์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ' ภรรยา 1.0 '

โปรแกรมที่แนะนำ คือ ' ดอกไม้ 2.1 ' และ ' เพชร 5.0 '

แล้วก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการติดตั้ง ' เลขาสุดสวย 3.3 '

ซึ่งนอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้สนับสนุนโดย ' ภรรยา 1.0 ' แล้วยังมีโอกาสสูง

ที่ทำให้ระบบเสียหายได้...

...ขอให้คุณโชคดีนะทีมงานฝ่ายเทคนิค...



...เรียนฝ่ายเทคนิค...

ผมได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ โสด 5.1 มาตั้งแต่เข้ามหาลัยใหม่

ๆขณะนี้การใช้งานส่วนใหญ่ปกติดีสามารถไปไหนมาไหนไดสะดวกแต่มีบางครั้งระบบเกิด

อาการเหงา

ว้าเหว่

บางครั้งถึงขั้นค้างการแก้ไขเฉพาะหน้าขณะนี้ใช้โปรแกรมแสงโสม 35 degree

หรือบางครั้งใช้ ช้าง 25

พบว่าอาการดีขึ้นแต่เมื่อใช้งานไปซักพักจะเกิดอาการดังกล่าวขึ้นอีก

หากผู้ใช้ท่านอื่นที่สามารถอัพเกรดจาก โสด 5.1 ไปเป็น เพื่อนสนิท women version

หรือข้าวใหม่ปลามัน2 หรือระบบอื่นที่ไม่เกิดอาการข้างต้นอีก โดยเฉพาะ แฟนเพื่อน

7.1

ซึ่งสามารถใช้งานได้เหมือนและดีกว่า ภรรยา 1.0 แต่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแฟน 7.0

และ ภรรยา 1.0 ด้วย...

ป.ล. ขณะนี้ผมได้ตั้ง sever ใหม่ และรันด้วย กิ๊ก OS 9.5

พบว่าอาการเหงาและอาการอื่นที่เคยมีลด ลง แต่เนื่องจาก กิ๊กos9.5

เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อทดลองใช้

จึงมีอายุการใช้งานที่ไม่แน่นอนว่าจะหมดอายุเมื่อใด ขึ้นอยู่กับไวรัสจำพวก

เจ้าของ.worm.win32 หรือ แฟนตัวจริง.trojan หากไวรัสตัวนี้ตรวจพบการใช้งาน

กิ๊กOS9.5

จะเข้าถล่มทันที จึงจำเป็นต้องหาระบบปฏิบัติการถาวรที่ไม่ต้องการดูแล

แต่ใช้งานได้ดีเหมือน กิ๊กos9.5

...ขอบคุณล่วงหน้าผู้ใช้งาน...

-----------------------------------------------

...เรียน ท่านผู้ใช้ที่มีปัญหา...

เรียนท่านผู้ใช้ที่มีปัญหากับ โสด5.1 หลายคนก็พบปัญหาที่เกิดขึ้นเช่น เหงา

ว้าเหว่ และถามว่าการใช้โปรแกรมแสงโสม 35 degree

หรือ ช้าง 25 สามารถแก้อาการที่มีอยู่ได้จริงหรือไม่ คำตอบคือโปรแกรมนั้นมี

Virus ที่แฝงตัวมากับโปรแกรมชนิดนี้ คือ ตับแข็ง

ไวรัสนี้จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเปิดใช้โปรแกรมจำพวก alcohol ต่างๆ

บางท่านถามว่ามี antivirus ตรวจจับไวรัส ตับแข็ง หรือไม่นั้น

ในขณะนี้มีแค่ ตับRemoval 1.0 เท่านั้น

ทางบริษัทจึงไม่ขอแนะนำให้ใช้โปรแกรมแสงโสม 35 degree หรือ ช้าง 25 หรือ

โปรแกรมจำพวก alcohol อื่นๆ เช่น โปรแกรมจำพวกนักเดิน(Walker) ต่างๆ

ในขณะนี้บริษัทได้ออก patch แก้ไข อาการเหงา ซึม มา

ซึ่งมี เพื่อนสนิท1.0 และ คนข้างบ้าน 1.1.0.56

ซึ่งสามารถคลายอาการเหงาได้อย่างดีเยี่ยม ในบางท่านที่ใช้ 2 โปรแกรมที่กล่าวมา

ข้างต้นไม่เกิดผลนั้น ขอแนะนำโปรแกรม พี่สาว2.0 และ น้องสาว Beta 1.0

ซึ่งการทำงานเปนการจำลอง กิ๊กOS อยู่บนเครื่องที่ท่าน

ใช้อยู่ จึงสามารถ remove ออกไปได้เมื่อไม่พอใจ

ส่วนจะสามารถหลบการทำงานของไวรัสที่กล่าวมานั้น ยังไม่ได้ทำการทดลองจริง

ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย...

ดังนั้นผู้ที่ใช้ กิ๊กOS อยู่ กรุณาเปลี่ยนกับมาเป็น โสด+patch

ดังกล่าวจะปลอดภัยกว่า ส่วนผู้ใช้บางรายถ้าฐานะดี เรามีโปรแกรม

รถคันงาม 5.2 ซึ่งสามารถแก้อาการเหงาได้เป็นอย่างดีส่วนในการอัพเกรด เป็น

ข้าวใหม่ปลามัน 2นั้นเป็นโปรแกรม

รถคันงามสารถทำให้การอัพเกรดเร็วขึ้นได้...

...จึงเรียนมาเพื่อทราบ...

...ฝ่ายเทคนิค...

จากการใช้งาน พี่สาว2.0 และน้องสาว 1 beta พบว่าสองโปรแกรมนี้มีข้อจำกัด

ซึ่งไม่สามารถเปิด

เผยได้เอาเป็นว่ามีข้อจำกัดที่เมื่อผู้ใช้มีการพัฒนาระบบขึ้นไปเรื่อย ๆ

จะชนเพดานไม่สามารถพัฒนาต่อได้จึงไม่เป็นที่พอใจ ส่วน patch เพื่อนสนิท1.0 และ

คนข้างบ้าน 1.1.0.56 เป็นโปรแกรมที่มีช่องโหว่มากเนื่องจากคนข้างบ้าน 1.1.0.56

หรือโปรแกรมสาวข้างห้องจากค่ายคอนโดฯ

ซึ่งพัฒนาเลียนแบบกันมีปัญหาเนื่องจากมักจะมีการใช้งานจากผู้ใช้หลายคนพร้อมกันจน

server ของ คนข้างบ้าน 1.1.0.56

หรือโปรแกรมสาวข้างห้องเกิดอาการ server time out หรือ Buffer over flow บ่อย ๆ

เนื่องจากไม่รองรับการใช้นจากหลายผู้ใช้พร้อม ๆ กันจากที่เคยใช้งานมาจำเป็นต้อง

ติดตั้งคนข้างบ้าน 1.1.0.56 หรือโปรแกรมสาวข้างห้อง ไว้อย่างน้อย 2 partition

เปิดเป็น backup ในกรณีที่ server ล่ม...

ส่วนโปรแกรมพวก alchohol

นั้นทางผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมเนื่องจากสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ค่อนข้างทันที

และได้ผลเป็นที่น่าพอใจเนื่องจากเมื่อรันโปรแกรมไประยะหนึ่ง

จะมี popup "ห้องอยู่ไหนค่ะ" หรือ "กลับไม่ไหวไปห้อง น้องก่อนก็ได้"

แต่ไม่แนะนำให้ accept popup ดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นการเปิด backdoor

ให้ไวรัสและโทรจันต่างๆ

เข้ามาได้ แต่แนะนำว่าอย่าปิด popup ดังกล่าวเนื่องจากสามารถลดอาการเหงา

ว้าเหว่ของ OSโสด5.1 ได้ให้พยายามเลี้ยงระบบไว้อย่ารันโปรแกรมพวก alchohol

จนเต็ม

bandwidth สูงสุดของเครือข่ายอาจเกิดอาการฟุบ หรือ server ล่มได้

ข้อแนะนำก่อนรันโปรแกรมพวก alchohol คือให้ติดตั้งsoftwareจำพวก Hang หรือ

wakie ก่อนรัน

alchohol เนื่องจากโปรแกรมทั้งสองมี filewall ป้องกันการใช้ bandwidth

จนถึงจุดสูงสุดด้วยการ bypass ข้อมูลที่โปรแกรม alchohol เก็บไว้ลงใน toilet

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2551

ชีวิตเหมือนกับใบไม้

พระธรรมเทศนา ของ หลวงพ่อปัญญา

หลวงพ่อปัญญาได้แนะนำวิธีเตรียมตัวเตรียมใจไว้
ก่อนจะถึงคราวที่ต้องสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักไป
ไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า
... ดับสังขาร-ประเพณี ปริศนาธรรม พิธีกรรม ...
และวิธีทำให้ถูกต้องครบถ้วนในงานศพ ...
โดยมีตอนที่ท่านได้บรรยายธรรมไว้ว่า
... ชีวิตเหมือนกับใบไม้ ...
ที่วัดแห่งนี้ ถ้าหากมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศล
จะมีการสวดพระอภิธรรมเพียงจบเดียว
จากนั้นเป็นการบรรยายธรรมะให้ญาติโยมที่มาในงานฟัง
เพื่อให้ผู้มาในงานได้สิ่งที่เป็นกุศลกลับไปบ้านบ้าง
ตามสมควรแก่ฐานะ
โดยหลวงพ่อมักจะบรรยายว่า วันนี้เราทั้งหลายมาประชุมกันที่นี่
ก็เพื่อไว้อาลัยแก่บุคคลผู้หนึ่งซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว
ร่างกายของคนเรานั้น เมื่อแก่ชราเต็มที่แล้วก็เหมือนกับ ใบไม้
เราเดินมาในวัดในช่วงนี้จะเห็นว่า
บนถนนมีใบไม้แห้งเต็มไปหมด
นั่นเป็นเครื่องแสดงให้เราเห็นว่า
ชีวิตของคนเรามันก็เหมือนกับใบไม้
เริ่มต้นด้วยแตกใบอ่อน แล้วก็เป็นใบเพสลาด
แล้วเป็นใบแก่ เป็นใบเหลือง
แล้วผลที่สุดก็หลุดจากขั้ว
กระจุยกระจายไปตามพื้นดิน เป็นปุ๋ยของต้นไม้ต่อไป


ชีวิตของเราก็เป็นอย่างนั้น
ตั้งต้นด้วยถือปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา
แล้วก็ค่อยๆ เจริญขึ้นตามลำดับ
สิบเดือนก็ออกมาจากครรภ์ลืมตาดูโลก
พอลืมตาขึ้นก็ร้องไห้ การร้องไห้นั่นแสดงอยู่ในตัวแล้วว่า
โลกนี้มันไม่สบาย โลกนี้มันมีความทุกข์ มีความเดือดร้อน
เพราะฉะนั้น เด็กแรกเกิดทุกคนจึงร้องไห้
การร้องไห้นั้นเป็นเครื่องประกาศให้เราทั้งหลายรู้ว่า
... ชีวิตมันเป็นทุกข์ ...
แล้วก็เป็นทุกข์จริงๆ สุขนั้นมันมีน้อย
เป็นเด็กแล้วก็เจริญเติบโตขึ้นโดยลำดับ
กระทั่งเป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
แล้วผลที่สุดก็แก่ชรา ...
แตกดับไปตามสังขารร่างกาย




หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก...11 ตุลาคม 2550 08:34 น.


... ตายแล้วไปไหน ไม่ต้องไปสนใจมัน
แต่ให้สนใจปัจจุบันว่า ทำตัวดีแต่ไหน
ทำความดีเสียในขณะนี้ ตายแล้วก็จะไปดีเอง ...



หลวงพ่อปัญญามรณภาพ-เป็นข่าวลือหนึ่งที่ลือกันมากสุด
ในช่วงกลางปี ๒๕๔๗ ส่วนเหตุที่เกิดข่าวลือนั้น
เพราะมีพระรูปหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คือ หลวงพ่อปัญญารองเจ้าอาวาสวัดบ้านตาดเศกสันติ
กัลยาณวิสุทธิ์ จ.อุดรธานี มรณภาพ
แต่คนเข้าใจว่าเป็น หลวงพ่อปัญญาวัดชลประทานฯ
ในช่วงที่เกิดข่าวลือนั้น
บรรดาลูกศิษย์โทรศัพท์ไปสอบถามที่วัดเป็นจำนวนมาก
ชนิดที่เรียกว่า ... สายแทบไหม้
และในที่สุดข่าวลือก็กลายเป็นข่าวจริง
... เมื่อเช้าตรู่ของวันวาน หลวงพ่อปัญญามรณภาพ ...

ช่วงที่เกิดข่าวลือว่าหลวงพ่อปัญญามรณภาพนั้น
ท่านได้ออกมาพูดเป็นคติเตือนใจว่า
... ข่าวลือเรื่องตายไม่ใช่เรื่องอัปมงคล
พระพุทธศาสนาไม่ได้ยึดถือว่า เรื่องใดเป็นมงคลหรืออัปมงคล
พุทธศาสนาถือว่า การทำดีเป็นมงคล
ส่วนการทำชั่วเป็นอัปมงคล
ใครจะลือว่า อย่างไรฉันไม่ถือ
เมื่อถึงเวลาตายก็เป็นเรื่องธรรมดา
ฉันไม่เคยคิดกลัวตายเลยสักครั้งเดียว
เพราะความตายเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก ...


และเรื่องความตายนี้เองก็เป็นคำถามยอดฮิต
ที่มักมีผู้ถามท่านหลายครั้งหลายครา
ถามกันทุกครั้งที่มีการบรรยายธรรมตามสถานที่ต่างๆ ว่า
... ตายแล้วไปไหน ...
ขณะเดียวกันท่านก็ตอบสวนออกมา
แบบไม่ต้องคิดว่า ... ตายแล้วไปป่าช้า ...
ตามมาด้วยคติธรรมที่ว่า
... ตายแล้วไปไหน ไม่ต้องไปสนใจ
แต่ให้สนใจปัจจุบันว่า ทำตัวดีแค่ไหน
ทำความดีเสียในขณะนี้
ตายแล้วก็จะไปดีเอง
เมื่อเรารู้ว่า เราจะตาย
เราควรทำอะไรที่จะไม่ให้เสียชาติที่ได้เกิดมา
เราก็ควรจะตั้งคำถามตัวเองว่า
ฉันเกิดมาทำไม ฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
เพราะว่าชีวิตนี้แข่งอยู่กับความตาย ...



ยิ่งแก่ ... ยิ่งต้องทำงาน ( คำสอนหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ )



ยิ่งแก่ ยิ่งต้องทำงาน
ยิ่งป่วย ยิ่งต้องทำงาน
เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก ต้องทำงานให้ได้มากที่สุด
ต้องทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด


หลวงพ่อปัญญานันทะ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์
เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2454 (ตรงกับรัชกาลที่ 6)
และ นับถึงปัจจุบันท่านมีอายุ 96 ปี ถึงแม้ว่าสังขารท่านจะร่วงโรย มีโรคภัยไข้เจ็บเหมือนปุถุชนคนสูงอายุทั่วไป แต่ท่านกลับมีแนวคิดที่แตกต่าง

บางคน สังขารร่วงโรย แล้วก็จะเริ่มน้อยใจในชีวิต
ว่าตัวเองไร้ประโยชน์ แต่กับหลวงพ่อแล้วไม่ใช่
คำพูดเมื่อคืนของหลวงพ่อ
ทำให้คนขี้เกียจอย่างเรา จุกขึ้นมา น้ำตารื้นๆเต็มตา
เพราะในวัยที่กำลังทำงานอย่างเรา
กลับสร้างประโยชน์ สร้างคุณงามความดี ได้น้อยกว่าท่านมาก
ท่านว่า ...

ยิ่งแก่ ยิ่งต้องทำงาน
ยิ่งป่วย ยิ่งต้องทำงน
เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก ต้องทำงานให้ได้มากที่สุด
ต้องทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

ค่าใช้จ่ายในการหาเมีย

หาเมีย:
ต้นทุนระหว่างจีบ = 100,000 up
ต้นทุนดาวน์ = 300,000 บาท up
ค่าที่อยู่อาศัยให้ = 1,500,000 up
ค่าพาหนะ = 600,000 up
ค่าบำรุงรายเดือน = 50% ของเงินเดือน up

ไม่รวมค่าเสียเวลาและประสาทเสีย
จากการแทรกแซง
และการไร้คุณภาพเป็นพักๆของผลิตภัณฑ์

ซื้อแล้วห้ามเปลี่ยน
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์อื่นร่วม

ผลิตภัณฑ์มีอายุยืนยาว
แต่คุณภาพเสื่อมทันทีที่ซื้อ

ผลิตภัณฑ์อาจเป็นสินค้ามือสอง
แต่จำหน่ายในราคาเต็ม

คุณไม่มีสิทธิ์ครอบครองผลิตภัณฑ์
แต่ผลิตภัณฑ์มีสิทธิ์ครอบครองคุณ
และทุกสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ

ผลิตภัณฑ์เกิดแตกหน่อ
รายได้ข้างต้นที่ว่ามาทั้งหมด
ต้องหักออกอีก30% ของรายได้...

"ภรยตามา ปรมา ทุกขา" การมีภรรยา มีทุกข์อย่างยิ่ง

มีเมีย เหมือนมือถือ .เป็นเหมือนสื่อคอยติดตาม
มีเมีย เหมือนมียาม .คอยสอบถามยุ่มย่ามใจ
มีเมีย เหมือนมีบ้าน .อยู่นานนานย่อมเบื่อได้
มีเมีย เหมือนมอ'ไซค์ .ซิ่งเร็วไปอาจเสี่ยงตาย
มีเมีย เหมือนมีรถ .ราคาหดเวลาขาย
มีเมีย เหมือนผีพราย .หากร่างกายไม่แต่งเติม
มีเมีย เหมือนม้าห้อ .ควบไม่รอยามฮึกเหิม
มีเมีย เหมือนบัตรเสริม .ต้องคอยเติมเงินเรื่อยไป
มีเมีย เหมือนปีศาจ .ยามอาละวาดน่าตกใจ
มีเมีย เหมือนมีไห .ปลาร้า....ใส่หลายร้อยปี
มีเมีย เหมือนมีคอมพ์ .ต้องคอยซ่อมบ่อยเหลือที่
มีเมีย เหมือนปลากระดี่ .ได้น้ำดีก็จากไป
มีเมีย เหมือนดั่งเสือ .ขย้ำเหยื่อจะเหลือไร
มีเมีย เหมือนกรรไกร........ ตัดทีไรขาดทุกที
มีเมีย ชอบจ่ายดะ .ซื้อไม่ละ..นะคุณพี่
มีเมีย ชอบเซ้าซี้ .บ่นทุกทีที่เจอกัน
มีเมีย ละน่ากวนใจ.................. แล้วทำไมชอบมีกัน
มีเมีย ไม่สร้างสรรค์ .จำให้มั่น อย่ามีเมีย....

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2551

จดหมายสั่งลา

The Last Letter
จดหมายสั่งลา
ถึงน้องหญิงที่รัก
พี่เขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อบอกกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายว่า คราวนี้พี่ลาขาด
พี่เป็นสามีที่ดีเสมอมาตลอดระยะเวลา 7 ปีแม้จะไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร
ในระยะสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่พี่รู้สึกแย่ที่สุด
ยิ่งเมื่อเจ้านายของน้องโทรมา บอกข่าวพี่ว่า น้องลาออกจากงานแล้ว ก็กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับพี่ซะแล้ว
เมื่ออาทิตย์ก่อน น้องกลับมาจากที่ทำงานโดยไม่ได้แม้แต่จะสังเกตทรงผม ทรงใหม่ของพี่ที่ไปทำมาเพื่อน้อง
กับข้าวที่เคยเป็นของสุดโปรดของน้อง น้องก็ใช้เวลาแค่ 2 นาทีสวาปามจนหมดโดยไม่ปริปากชมซักคำ
หรือแม้แต่กางเกงนอนผ้าไหม ตัวใหม่ของพี่น้องก็ไม่ใยดีชายตามอง กลับโดดขึ้นเตียงนอนหลับเป็นตาย
ทันทีหลังจากดู ละคอนน้ำเน่าจบ
น้องไม่เคยเอ่ยปากบอกรักพี่อีกเลย หรือกระทั่งกิจกรรมแสนสนุกที่เราเคยทำ ก็ไม่เคยมี
อย่างกับว่าเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันซะอย่างงั้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพราะ น้องมีคนใหม่ หรือหมดรักพี่แล้ว พี่ก็จะลาขาดจากน้องตลอดไป

จาก ว่าที่ อดีตสามี

ป.ล. ไม่ต้องเสียเวลา ตามหาพี่ให้เหนื่อย น้องสาวของน้องหญิงกับพี่ ตัดสินใจกันว่าจะย้ายไปอยู่ อุบลฯ ด้วยกัน

ขอให้น้องโชคดีมีชัยเด้อ


จดหมายจากน้องหญิง ฝากเพื่อนน้องไขศรี (น้องสาว) ไปให้พี่ สมชาย

ถึงพี่สมชาย อดีตสามี
นี่เป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตของน้องที่เคยได้รับเมื่อได้จดหมายจ ากพี่สมชาย
จริงอยู่ที่เราแต่งงานกันมา 7 ปีแม้ว่า คำว่า"สามีที่ดี" จะไกลจากความจริงสำหรับพี่สมชายก็ตาม
น้องใช้เวลาดูละคอนน้ำเน่า เพราะมันช่วยให้คลายเครียดจากอาการขี้บ่น จู้จี้จุกจิกของพี่สมชาย แต่น่า
เสียดายที่มันไม่ได้ผลซักเท่าไร
ที่จริง น้องสังเกตเห็นทรงผม ทรงใหม่ของพี่เมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ความคิดแวปแรกที่เกิดขึ้นเมื่อน้องเห็นพี่
คือ "นี่มันทรงอะไรกันผะ" "ดูอย่างกับ ตุ๊ด เอเอฟ 4 เลย"
เพราะคุณแม่ของน้องสอนมาดี ว่าถ้าพูดอะไรออกมาแล้วมันทำให้คนเขาเสียใจ อย่าพูดดีกว่า น้องจึงไม่
พูดอะไรออกมาซักคำ
และเมื่อพี่สมชายทำอาหารสุดโปรดของน้อง น้องเกรงว่า พี่จะสับสนว่า
มันจะเป็นของโปรดของ น้องไขศรี (น้องสาว) หรือของน้องหญิงกันแน่ เพราะน้องเลิกทาน เครื่องในมาเกือบ 7 ปีแล้ว
พูดถึง กางเกงนอนผ้าไหมตัวใหม่ของพี่สมชาย น้องไม่อยากมองมัน เพราะป้ายราคา 1490 บาท มันยังติดอยู่ที่กางเกงอยู่เลย
และน้องได้แต่ภาวนาว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ ไขศรี (น้องสาว) มายืมเงิน 1500 บาทจากน้องในเช้าวันเดียวกัน
และแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง น้องก็ยังคิดว่า เราน่าจะคุยกันเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
จนไม่กี่วันถัดมา น้องถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ชุดใหญ่ยกแผง น้องจึงลาออกจากงาน และไปซื้อแพคเกจเที่ยวรอบโลก 2 ที่
กะจะชวนพี่สมชายไปเที่ยวด้วยกัน ก่อนกลับมาเสวยสุขต่อหลังจบการเดินทางท่องเที่ยว
แต่เมื่อน้องกลับมาถึงบ้านและพบกับจดหมายของพี่ น้องจึงเข้าใจว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะชะตากำหนดให้เป็นไป
น้องได้แต่หวังว่า พี่จะพบกับชีวิตอย่างที่พี่อยากมีดังหวัง
อ้อ ทนายของน้องบอกน้องว่า จดหมายฉบับที่พี่สมชายเขียน สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า
และใช้เป็นเอกสารยืนยัน การไม่ต้องแบ่งสมบัติที่มีหลังแต่งได้

ดังนั้น ขอให้พี่โชคดีค่ะ

จาก น้องหญิง อดีตภรรยาของพี่สมชาย ซึ่งขณะนี้รวย โค ตร และ หลุดพ้นนรกซะที

ป.ล. น้องไม่รู้ว่าเคย บอกพี่สมชายหรือเปล่าว่า น้องของ น้องหญิง "ไขศรี" มีชื่อเดิมว่า "ไอ้ไข่" แต่
น้องหวังว่า มันคงไม่เป็นปัญหากับพี่สมชายมั้งคะ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม